ผู้ว่าอยุธยาลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องชาวบ้านริมแม่น้ำน้อย ใน 2 อำเภอ เสนา และบางบาล

แบ่งปันข่าวนี้ :

ผู้ว่าอยุธยาลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องชาวบ้านริมแม่น้ำน้อย ใน 2 อำเภอ เสนา และบางบาล

                เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านแพน อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมี นาง อมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา รายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ อำเภอเสนา

                จากนั้นทั้งหมดได้ลงเรือสำรวจสถานการณ์น้ำแม่น้ำน้อย และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำที่ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน สูงเฉลี่ย 50 – 80 เซนติเมตร ต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะในการเข้าออกจากบ้าน พร้อมทั้งมอบยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

                โดยในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านแพน ชาวบ้านส่วนใหญ่ มีบ้านพักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำน้อย ประมาณ 170 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 130 ครัวเรือน

                จากนั้น นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ไปยัง วัดอินทราราม ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นาย รณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอบางบาล รายงานสถานการณ์การน้ำในพื้นที่ อำเภอบางบาล เยี่ยมเยียนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หมอพยาบาลจากโรงพยาบาลบางบาล ที่จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่น้ำท่วมมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จากนั้นได้เดินลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ติดวัน ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ และมอบยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชน

                พร้อมเดินทางไปยัง ศูนย์ เฝ้าระวังภัยพิบัติ ที่ตั้งอยู่ริมถนนแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่จัดตั้งศูนย์คอยช่วยเหลือประสานงาน ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งภายในชุมชนอยู่นอกคั้นกั้นน้ำติดกับแม่น้ำน้อย ถูกน้ำล้นตลิ่งท่วมสูงในชุมชน ต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดด้านนอก ซึ่งมีการจัดเฝ้าเวรยามเพื่อป้องกันทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

                ทั้งนี้ยังได้นั้งรถสูง เพื่อฝ่าสายน้ำที่ไหลฝ่าน ตัดถนนทางเข้าวัด เข้าไปยัง วัดตะกู ตำบลวัดตะกู อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านที่อยู่ด้านใน ทั้งตรวจดูสภาพ โรงเรียนวัดตะกู และวัดตะกู ที่อยู่ติดกัน ติดกับแม่น้ำน้อย พบกับ พระครูสมุห์พอเจตน์ ชาตวีโร เจ้าอาวาสวัดตะกู โดยพบว่าทางวัดมีพระสงฆ์ จำนวน 7 รูป ตอนนี้ต้องหยุดออกบิณฑบาต เนื่องจากน้ำทั้งทั้งชุมชนและวัด แต่ก็โชคดียังมี ญาติโยมผู้ใจบุญ ทำบุญ ทำอาหารมาถวายอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในตอนนี้

                 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อมาเยี่ยมให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำ ติดกับแม่น้ำน้อย ซึ่งได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน ขณะนี้น้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จากที่เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำอยู่ที่ 1,800 ลบ.ม./วินาที แต่เมื่อ ประมาณช่วงบ่ายๆรับทราบจากทางกรมชนประทาน ว่าจะมีการลดการระบายน้ำ ตั้งแต่บ่ายสามโมงของวันนี้ จะลดลงไป 150 ลบ.ม./วินาที โดยคาดว่าน้ำจะลงไปประมาณ 20 – 30 เซนติเมตร ซึ่งแต่ละพื้นที่มีการจัดเจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือมาโดยตลอดตั้งแต่แรก แต่จะเป็นห่วง ในส่วนของกลุ่มเปราะบาง เป็นพิเศษ อันไหนที่ต้องเคลื่อนย้ายออกมาก็จัดให้ออกมาในสถานที่ ที่ทางอำเภอ ทางท้องถิ่น จัดรองรับไว้ โดยทางทีมแพทย์จากทาง สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประสานโรงพยาบาลในพื้นที่ทุกอำเภอเตรียมความพร้อมออกมาดูแลในยา ในส่วนทั้งยารักษาโรค ยาสามัญประจำบ้าน รวมไปถึงยาทาแก้น้ำกัดเท้า มาแจกรวมถึงจัดทีมแพทย์เคลื่อนที่เข้าไปดูแลผู้ป่วยที่ออกมาไม่ได้ ก็จะไปดูแลถึงบ้าน

                ซึ่งในตอนนี้น้ำได้มีการเปิดระบายเข้าทุ้งแล้วบางส่วน เพราะในส่วนนี้ต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่างประชาชนในพื้นที่ ทางชลประทาน สทนช.จะต้องมาประชุมร่วมกันว่าจะปล่อยในสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนในภาพรวม ส่วนในพื้นที่น้ำท่วม ทุกอำเภอมีการกำชับในเรื่องของการสื่อสารแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน และให้องค์กรปกคลองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ ออกไปดูแลพี่น้องประชาชน และต้องให้เบอร์บ้านเรือนพี่น้องประชาชนทุกบ้านประสานได้ทันทีในกรณีจะอพยพ เคลื่อนย้าย หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรตรงได้ทันที

อ่านแล้ว112 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.