กันจอมพลัง บุกช่วยเหลือหญิงสาว ถูกอดีตสามีทำร้าย

วันที่ 15 มิถุนายน 2566 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา น.ส หมีพู ที่ร้องเรียนขอความช่วยเหลือ เข้าพบตำรวจสถานีตำรวจภูธรอุทัย จังหวัดอยุธยา เพื่อให้เร่งติดตามตัวอดีตสามีชาวกะเหรี่ยงที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ผู้เสียหาย ทั้งกระทืบตบตีจนแก้วหูแตก จนทนไม่ไหวเคยหลบหนีมาแล้วหลายครั้งแต่สามีชาวกะเหรี่ยง ก็ยังตามไปทำร้ายร่างกายพอดีภรรยาที่ทำงาน และยังแอบงัดเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายพร้อมกับบังคับข่มขืน หากไม่ยอมก็จะถูกทำร้ายร่างกายมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตรวจสอบประวัติพบว่าสามีชาวกะเหรี่ยงมีหมายจับติดตัว หลายข้อหา แต่หนีได้มาตลอดตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้

คุณหมีพู อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตั้งแต่รู้จักกับนายมานัส ใจเย็น ประมาณต้นปี 2566 คบหากันมาได้หนึ่งเดือนก็มีการทำร้ายร่างกายตนบ่อยครั้ง และมีการทำร้ายแบบรุนแรงประมาณ 4 ครั้ง คือ ตบ ตี และกระทืบ จนแก้วหูข้างซ้ายแตก ตนต้องรักษาตัวอยู่ประมาณสองเดือน จนปัจจุบันนี้หูก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ // จนตนขอเลิกและหนีไปอยู่หอพักย่านเตาปูน แต่หลังจากเลิกกันไปแล้วฝ่ายชายยังตามมาบุกรุกที่ห้องพัก โดยฝ่ายชายไปบุกพังข้างของในบ้านของตน และจะไปดูใบเสร็จค่าไฟหอพักใหม่ที่ตนไปอาศัยอยู่ เพื่อตามไปยังที่อยู่ในใบเสร็จปัจจุบัน เพื่อตามไปล่วงละเมิดทางเพศ ถ้าตนไม่ยินยอมก็จะโดนทำร้ายร่างกาย

จนครั้งสุดท้ายที่โดนทำร้าย เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายมานัสบุกไปตบหน้าตนต่อหน้าผู้คนที่อู่ซ่อมรถ จนตนหมดความอดทน จึงได้ร้องเรียนไปทางเพจโหนกระแสและกันจอมพลัง เพื่อขอความช่วยเหลือ // ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งความและออกหมายจับไปแล้วแต่ว่ายังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ทุกครั้งที่ตำรวจจะไปจับกุมนายมานัสก็บอกว่าเป็นเรื่องของผัวเมียอย่ามายุ่ง แต่ตนยืนยันว่าเราตัดขาดกันแล้วอย่ามายุ่งกันอีก ก่อนหน้านี้ทราบมาว่าฝ่ายชายมีการใช้ยาเสพติดแต่ว่าตอนนี้ไม่รู้ว่ายังคงเสพยาอยู่หรือไม่
ด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง บอกว่า ได้ประสานมายังผู้กำกับ สภ.อุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจสอบหมายจับของผู้ก่อเหตุทราบว่า นายมานัส ใจเย็น ชายชาวกะเหรี่ยง มีหมายจับค้างอยู่ที่ สน.เตาปูน ในหลายข้อหา // วันนี้จึงได้ประสานมาที่ สภ.อุทัย เพื่อที่จะวางแผนจะให้ตำรวจเข้าไปจับกุมตัว

โดนคุณกัน จอมพลัง ขอเรียกผู้ชายคนนี้ว่าหน้าตัวเมีย อย่ามาอ้างสิทธิความเป็นผัวเมียเพื่อทำร้ายร่างกายผู้หญิงมองว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ผู้หญิงไม่ได้เป็นทาสหรือชะเลยคุณไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายผู้หญิง วันนี้คุณทำอะไรไว้ต้องได้รับโทษกับสิ่งที่คุณกระทำไว้
พ.ต.อ มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ. อุทัย ได้ลงพื้นที่ไปยัง ภายในหมู่บ้านพระปิ่น 11 อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา พร้อมกับกำลังตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอุทัย เมื่อไปถึงชุดสืบสวนได้ขึ้นไปที่ด้านบนพบ แก้ไขชื่อผู้ต้องหา ชื่อนาย มนัส ใจเย็น ที่เป็นผู้ก่อเหตุ นอนอยู่บริเวณในห้อง ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับของ สน. เตาปูน ทั้งหมดสี่ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส // กักขังหน่วงเหนี่ยว // บุกรุกเคหสถานยามวิกาล // ลักทรัพย์ และข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ก่อนจะนำตัว ผู้ต้องหาลงมาที่ด้านล่าง เพื่อจะไปสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรอุทัย ระหว่างนั้นสื่อมวลชนได้สอบถาม นายมานัส ผู้ต้องหา ยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายหลายครั้ง พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ลักทรัพย์ ส่วนการข่มขืนก็ไม่เป็นความจริง โดยอ้างว่ายังอยู่กินฉันท์สามีภรรยากัน และยังระบุอีกว่า สาเหตุที่ทำร้ายเพราะผู้หญิงมีเรื่องผู้ชายอื่น และยอมรับว่าตนเองข่มขู่ที่จะทำร้ายร่างกายผู้หญิงจริงเนื่องจากหึงหวง ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวขึ้นรถมายัง สภ.อุทัย

เพื่อนบ้าน ( เบลอหน้า ) เผยว่าตั้งแต่อยู่มาเคยเห็นผู้ชายทำร้ายผู้หญิงบ่อย ประมาณ 3 ครั้ง จากนั้นก็เคยเห็นลงเฟส ระบายว่าถูกทำร้ายผู้ชายเห็นก็กลับมาทำร้าย ผู้หญิงนี้มีอยู่ที่อื่นผู้ชาย ว่าตอนเช้าก็เรียนทางผู้ชายซึ่งทราบว่าเป็นชาวกะเหรี่ยง ก็ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน จากนั้นก็มีก็มีคนมาอยู่ไทยก็มีคนมาอยู่ภายในบ้านตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นใครมีแต่ผู้หญิงติดต่อมาให้คอยปิดประตูบ้านเป็ด และทราบมาว่าตามไปทำร้ายขู่ฆ่าผู้หญิงด้วย ซึ่งผู้หญิงก็จะโพสต์ประจานผู้ชายอยู่บ่อยครั้งว่าตามไปทำร้าย
อ่านแล้ว193 times!