ประตูไม้สักโบราณศาลเจ้า หาย !  คนดูแลศาลเจ้าเชื่อหากใครขโมยไปจะเจอสิ่งไม่ดีกับชีวิต วอนให้นำมาคืน

แบ่งปันข่าวนี้ :

ประตูไม้สักโบราณศาลเจ้า หาย !  คนดูแลศาลเจ้าเชื่อหากใครขโมยไปจะเจอสิ่งไม่ดีกับชีวิต วอนให้นำมาคืน

คนร้าย ขโมยบานประตูไม้สักโบราณศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับร้อยปีสูงกว่า 2 เมตร ของ อำเภอท่าเรือ หายหลังที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตรเปิดทิ้งไว้ยังอยู่ดี พอน้ำลดพากันทำความสะอาดล้างศาลเจ้าประตูหายไป 1 บาน เหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า 1 บาน

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ เกิดเหตุบริเวณศาลเจ้าตั้งอยู่ภายในซอยเทศบาล 1 ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ลักษณะของประตูเป็นไม้สักทอง มีขนาดหนา 3 นิ้ว กว้าง 60 เซ็นติเมตร สูง 2 เมตร น้ำหนักกว่า 80 กิโลกรัม หน้าบานประตูแกะสลักเป็นรูปเทพทวาลบาลเฝ้าประตู  บานประตูติดตั้งแบบสลักยึดกับพื้นและวงกลบด้านบน  หายไป 1 บานเหลือทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า 1 บาน

สอบถาม นายณัฐไวทย์  กุลวงษ์วาณิชย์  อายุ 44 ปี  คณะกรรมการศาลเจ้า บอกว่าศาลเจ้าถูกน้ำท่วมจึง ได้เก็บพระพุทธรูป เจ้าพ่อ โต๊ะเครื่องตั้งไปไว้บนที่สูงพ้นน้ำและเปิดประตูศาลเจ้าทั้งสองบานทิ้งไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงกดดันของน้ำ

เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาน้ำได้แห้งลง สำนักงานเทศบาลตำบลท่าเรือ ได้นำคนงาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามาฉีดน้ำล้างทำความสะอาดรอบบริเวณศาลเจ้า ยังพบว่าบานประตูศาลเจ้าทั้งสองบานยังอยุ่โดยเปิดทิ้งไว้ จนกระทั้งเมื่อวาน คณะกรรมการศาลเจ้า จะอัญเชิญ เจ้าพ่อปุงเถ่ากง ปุงเถ่าม่า มาตั้งประดิษฐ์ยังที่เดิมภายในศาลเจ้า ได้เข้ามาเก็บทำความสะอาดภายในศาลเจ้า ไปพบประตูศาลเจ้าบาน ด้านซ้ายหายไป สอบถามทุกคนแล้วยีนยันว่าช่วงศาลเจ้าถูกน้ำท่วม คณะกรรมการโรงเจได้พายเรือเข้ามาตรวจสอบศาลเจ้าพบว่าประตูยังอยู่ทั้งสองบานแต่เปิดทิ้งไว้ และตอนน้ำแห้งเมื่อสองอาทิตย์ก่อนก็พบว่าประตูยังอยู่ น่าจะหายช่วงวันลอยกระทง และเชื่อว่าคนร้ายต้องมีความชำนาญในการถอดและติดตั้งประตูไม้สักแบบโบราณบานขนาดใหญ่น้ำหนักมาลักษณะอย่างนี้ เนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยของการงัดแงะแต่อย่างไร คนที่จะถอดต้องมีความชำนาญสูง และตนเองเชื่อว่าหากใครขโมยไปก็จะเจอสิ่งไม่ดีในชีวิต

เบื้องต้น ได้แจ้งความไว้ที่โรงพักท่าเรือ เพื่อให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเก็บหลักฐาน ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและติดตามนำเอาบานประตูกลับคืนมา เนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอท่าเรือเป็นอย่างมาก สำหรับมูลค่าหากตกไปอยุ่ในตลาดมืดก็จะได้ราคาสูงเป็นที่นิยมของพวกนักสะสมของโบราณเก่าแก่

หากตำรวจยังติดตามบานประตูกลับคืนมาได้หรือยังจับคนร้ายไม่ได้ ก็เกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะหวนกลับมาขโมยบานประตูที่เหลืออีก 1 บานไปอีก เนื่องจากโรงเจแห่งนี้ไม่มีคนเฝ้ามานานแล้วหลังจากคนเฝ้าเดิมเสียชีวิตภายในศาลเจ้าแห่งนี้ไปแล้ว ที่สำคัญที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏมีทรัพย์สินของโรงเจของศาลเจ้าหายแต่อย่างไร จึงไม่ได้ติดตั้งระบบป้องกัน ตั้งแต่กุญแจล็อค กล้องวงจรปิด เห็นว่าอยุ่ใกล้สำนักงานเทศบาลเปิดไฟส่องแสงสว่างตลอดคืน จากนี้ไปคณะกรรมโรงเจจะต้องทบทวนหามาตรการป้องกันเพิ่มขึ้นอีกเพื่อป้องกันทรัพย์สินหาย

ด้าน พ.ต.อ ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เผยเรื่องต้นได้รับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วอยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนีและตรวจสอบตามร้านรับซื้อของเก่าซึ่งเชื่อว่าหากขโมยไปอาจจะนำไปขายตามร้านของเก่าหรืออาจจะเป็นการขโมยตามใบสั่งซื้อซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อ่านแล้ว344 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.