ปัตตานี – ผู้เข้ารับการพักฟื้นที่ศูนย์พักคอย(CI) พร้อมออกสู่สังคม กลับบ้านไปหาครอบครัวที่อบอุ่น โมเดลศูนย์พักคอย ของประเทศแห่งแรกที่สามารถนำเยาวชนติดน้ำกระท่อมฟื้นตัวเร็วเกินคาด ส่วนที่รามัน จ.ยะลา ยึดเป็นแบบแผนในการทำงานครั้งถัดไป
วันที่ 30 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวปัตตานีได้เดินทางลงพื้นที่เข้าไปเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจน้องๆที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติด“น้ำกระท่อม4คูณร้อย” โดยเยาวชนที่เข้ารับการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด ณ ศูนย์พักคอย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก ปัตตานี จำนวน 50 คน ครบตั้งแต่่วันแรกกจนถึงวันสุดท้ายคือวันนี้ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาทางศูนย์ได้จัดกิจกรรมสันทนาการ มีการเล่นดนตรีสด ร้องเพลง และรับประทานอาหารมื้อค่ำร่วมกันเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่ช่วงเย็นวันนี้จะมีผู้ปกครองมารับกลับบ้าน สำหรับการจัดกิจกรรมสันทนาการคืนสุดท้ายนี้เห็นผลสัมฤทธิ์ได้รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ”วาระเร่งด่วน 120 วันปราบพืชกระท่อม“ ของทาง ศอ.บต. นั้น มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูชีวิตให้ใหม่ เริ่มต้นชีวิตอย่างมีคุณภาพ และสร้างโอกาสใหม่ในการหาอาชีพให้ตนเอง เเละยังสามารถกลับไปมีอาชีพอีกด้วย
นางกรรณิการ์ ลำพรหมสุข หัวหน้าศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดปัตตานี ตำเเหน่งปลัดอำเภอ เปิดใจ กล่าวว่า สำหรับโครงการ นี้ถือเป็นโมเดลแรกเริ่มที่ทาง ศอ.บต. ร่วมกับ พื้นที่ 5 จชต. โดยมีความร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้นำชุมชน วัด มัสยิด และภาคประชาสังคม ทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของการบำบัดยาเสพติดโดยเน้นย้ำไปถึงพิษภัยของน้ำกระท่อม นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ดิฉันเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ กิน นอน ได้เห็นภาพรวมตั้งแต่แรกเข้าจนกระทั่งวันสุดท้ายที่คอยกลับบ้าน ดีใจมากเห็นน้องๆหน้าแจ่มใส และสามารถเลิกยาได้ ตนเอง และปลัดอำเภอทุกท่าน ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เสียสละเวลาส่วนตัว เพื่อดูแลเยาวชนอย่างใกล้ชิด แต่ยังขาดงบประมาณที่ยังไม่พอต่อการที่ต้องรับคนเพิ่มเติมจากการคัดเลือกผู้ที่สมัครใจต้องการเลิกยา ที่นี่พร้อมเปิดพื้นที่ให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง แตกต่างจากโรงพยาบาลที่เป็นศูนย์บำบัดยาเสพติด
น้องขุน (นามสมมุติ) เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการต่างรู้สึกอิ่มเอมใจ ได้เพื่อนใหม่ และมีความหวังในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเฉพาะการฝึกอาชีพที่จัดขึ้นภายในศูนย์พักคอย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถประกอบอาชีพได้ทันทีหลังกลับบ้าน
ทางด้าน อส. นายหมู่ใหญ่รัตภูมิ เฒ่าจันทร์ดี หัวหน้าชุดครูฝึก กล่าวว่าเพิ่มเติมอีกว่า ผลลัพธ์ของโครงการเกิดขึ้นรวดเร็วเกินคาด ทุกคนตั้งใจมาที่จะเลิกยา จึงทำให้ครูทำงานง่ายแต่ไม่ได้ยากนัก เพราะมีประสบการณ์ทางด้านเรื่องควบคุมดูแลบำบัดรักษาเยาวชนที่เข้าค่าย จากการที่ผมประเมินมาตลอด1เดือนเต็ม เด็กๆทุกคนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด และเราพร้อมให้เข้ากลับสู่สังคมอย่างมั่นใจ ผู้สื่อข่าวที่ติดตามสถานการณ์ทุกวันก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า “ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดผลลัพธ์ได้เร็วขนาดนี้”
สำหรับโมเดลต่อไปจะจัดขึ้นที่อำเภอรามัน จังหวัดยะลา โดยใช้รูปแบบศูนย์พักคอยเช่นเดียวกัน หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งพื้นที่แห่งความหวังในการฟื้นฟูเยาวชนไทยให้รอดพ้นจากภัยยาเสพติดโปรดติดตามตอนต่อไปในภารกิจฝึกอาชีพและการพัฒนาศูนย์พักคอยทั่วประเทศ
ตอริก สหสันติวรกุล รายงาน
อ่านแล้ว52 times!
