มท.1 ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและเยี่ยมเยือนให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

แบ่งปันข่าวนี้ :

มท.1 ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและเยี่ยมเยือนให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2565 ที่ วัดโคกทอง ตำบลกุฎี อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงมหาดไทย ร่วมลงพื้นที่มาตรวจสถานการณ์น้ำ พบปะเยี่ยมเยือน และให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะ ให้การต้อนรับ และรายงานสถานการณ์น้ำและการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่

จากนั้นได้มอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนผุ้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จำนวน 120 ชุด พร้อมลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจกับ พี่น้องประชาชนบ้านเรือนที่ประสบอุกภัย ร่วมถึงติดตามสถานการณ์การระบายน้ำของชลประทานในพื้นที่ อีกด้วย

โดยโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ได้แจ้งข้อมูลการระบายน้ำ เช้าวันนี้  29 สิงหาคม 2565 เมื่อเวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่าน C13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,579 ลบ.ม/วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 79 ลบ.ม/วินาที ทำให้ระดับน้ำที่ C35 บ้านป้อม พระนครศรีอยุธยา เพิ่มขึ้น 8 ซม. ในส่วนปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไหลผ่านสถานี S.28 อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี 366 ลบ.ม/วินาที ปริมาณน้ำระบายลดลง 105 ลบ.ม/วินาที ระดับน้ำที่ สถานี S.26 (เขื่อนพระรามหก) อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบาย 545 ลบ.ม./วิ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 21 ซม.

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่าการเดินทางมาวันนี้มาเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตอนนี้หลายพื้นที่ในประเทศประสบอุทกภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เป็น 1 ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้กระจายไปเยี่ยมในหลายๆจุด ซึ่งจุดนี้ติดกับพื้นที่ทุ่งป่าโมก ชุมชนตรงนี้กว่า 1,000 หลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีนาในพื้นที่ตำบลกุฎี อำเภอผักไห่ กว่า 400 ไร่ ที่ยังไม่ได้เกี่ยว ซึ่งทุกฝ่ายมาช่วยเหลือกันสูบน้ำออกช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้เก็บเกี่ยวภายใน 10 วัน เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหายมาก ถ้าพ้นช่วงเกี่ยวไปแล้ว สถานการณ์น้ำเหนือยังคงมากก็จะได้ทุ่งรับน้ำ

ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ทั้งสิ้น 16 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน และพื้นที่การเกษตร จำนวน 8 อำเภอ  78 ตำบล 347 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 10,595 ครัวเรือน ดังนี้ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่  อำเภอบางบาล อำเภอบางไทร อำเภอบางปะหัน อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางปะอิน และอำเภอท่าเรือ รวมทั้งพื้นที่การเกษตร 2,793 ไร่ นอกจากนี้  ได้ประสานติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตรแล้วกว่า 5 ล้านคิว ทำให้สามารถรักษาที่นาได้ 1 หมื่นกว่าไร่ คาดว่าจะคืนทุ่งรับน้ำให้กับกรมชลประทาน ได้ภายในวันที่ 15 กันยายน นี้

ศักดริน  พุทธคาวี ( ต้น 089 – 886 – 2828 )

อ่านแล้ว330 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.