สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในจังหวัดวันนี้ พบ 492 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ขณะผู้ว่าอยุธยาเดินหน้าตรวจความพร้อมศูนย์พักคอย เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ภายใน ร.ร.วัดศาลาปูน
วันที่ 31 สิงหาคม 2564 สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 21,194 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 492 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 198 ราย ทั้งนี้ตัวเลขที่สูงอย่างต่อเนื่อง พบตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสูง ยังคงมาจาก สัมผัสคนในครอบครัว และสัมผัสในโรงงาน/บริษัท
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ที่ โรงเรียนเทศบาลวัดศาลาปูน พระราชสิทธิมงคล (สวัสดิ์ โสตฺถิทตฺโต) นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักคอย ของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา โดยมี ดต.สุรินทร์ ผดุลเพียร รองนายเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ประธานศูนย์พักคอย พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา สมาชิกสภาเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับและได้รับความเมตตาจาก พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา/เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร มาร่วมตรวจเยี่ยมในครั้งนี้
สำหรับศูนย์พักคอยของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้รับการสนับสนุนให้ใช้สถานที่โดมอเนกประสงค์ภายในโรงเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดศาลาปูน พระราชสิทธิมงคล (สวัสดิ์ โสตฺถิทตฺโต) ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและอาคารเรียนเป็นสถานที่พักคอย โดยความร่วมมือของ ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุลนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และพระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร จัดสร้างขึ้นเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 นำเข้าสู่ระบบการรักษามาพักเพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน สามารถรองรับผู้ติดเชื้อขนาด 150 เตียง
นายภานุ แย้มศรี กล่าวว่า สถานการณ์ของผู้ติดเชื้อในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังอยู่ในระดับที่สูงอยู่ แต่ทางจังหวัดได้จัดสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อตามอำเภอต่าง ๆ มากขึ้น อีกทั้งจัดตั้งศูนย์ Call Center เพื่อรองรับข้อร้องเรียนและประสานในการบริหารจัดการเตียงให้เข้าสู่ระบบการรักษาในพื้นที่ให้เป็นระบบ ทำให้ภาวะการครองเตียงลดลง และการร้องเรียนของประชาชนในการเข้าสู่ระบบการรักษาลดน้อยลงด้วย เนื่องจากจำนวนที่พักสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีเพิ่มขึ้น รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนได้เปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ส่วนในเรื่องการฉีดวัคซีนในภาพรวมของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉีดแล้วคิดเป็นร้อยละ 51 ของจำนวนประชากร
ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดและภาคเอกชนในการนำวัคซีนชิโนฟาร์มเสริมเข้ามา จึงทำให้ประชากรของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับวัคซีนสูงขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ ขณะนี้ยังอยู่ที่ 30 % ซึ่งได้เน้นย้ำไปที่อำเภอแต่ละท้องที่ประชุมหารือ กำนัน ผู้ใหญ่ ผู้นำชุมชน ปูพรมเดินเคาะประตูตามบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเป้าหมายให้มาฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลให้มากที่สุด เว้นแต่กรณีไม่ประสงค์ที่จะฉีดวัคซีน ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถบังคับได้ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเมื่อเกิดการติดเชื้อจะมีผลกระทบต่อร่างกายมาก
ด้านการปลดล็อกสถานประกอบการ และมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้น ร้านอาหาร สนามกีฬากลางแจ้ง แต่อย่างไรก็ตาม มาตรการต่าง ๆ ที่สำคัญยังคงไว้ต่อเนื่อง เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความห่างไกลจากโรคโควิด-19 ที่เรายังคงต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น
อ่านแล้ว442 times!