รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ ออท.สมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 มี.ค.68 ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ นาย Pedro Zwahlen (เปโดร สวาห์เลน) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงในภูมิภาค
รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ขอขอบคุณสมาพันธรัฐสวิส ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เนื่องในโอกาสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้มีการเสด็จฯ เยือนสวิสฯ เมื่อวันที่ 17 – 22 ก.พ.68 ที่ผ่านมา
โดยได้ทอดพระเนตรการดําเนินงานของบริษัท โนวาร์ตีส อินเตอร์เนชั่นแนล เอจี สมาคมธรณีสัณฐานวิทยา ศูนย์วิจัยเนสท์เล่ และ องค์การวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป รวมทั้งได้ทรงเปิดอาคารสํานักงานคณะผู้แทนถาวรไทย ประจําองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ณ นครเจนีวา
รวมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับสวิสโดยได้มีการฉลอง ครบรอบ 90 ปี เมื่อปี 2564 ซึ่ง ไทยกับสมาพันธรัฐสวิส มีความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ยาวนาน ในหลายด้าน ทั้งการทูต การค้า การลงทุน และการศึกษา โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นคู่ค้าสําคัญอันดับสองของไทยในยุโรป
โดยเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์และความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมทั้งการส่งกลับชาวอุยกูร์
ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยืนยันว่าการส่งผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ เป็นผลจากการหารือและตัดสินใจอย่างรอบคอบ โดยรัฐบาลไทยคำนึงถึงหลักกฎหมายสากล และสิทธิมนุษยชน
ทั้งนี้ จะมีการส่งผู้แทนระดับสูงของทางการไทย เดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อติดตามความเป็นอยู่ โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานระหว่างประเทศในเรื่องนี้ต่อไป
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ได้ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีมและรมว.กลาโหมที่ได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดีในวันนี้ และหวังว่าจะมีการหารือพูดคุยและมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาความมั่นคงที่เกิดขึ้นในภูมิภาคนี้อย่างยั่งยืนต่อไป
////////
อ่านแล้ว172 times!
