ตำรวจทางหลวงอยุธยาไล่ล่าพม่าตีนผีเหยียบปาเจโร่หนีการตรวจ สุดท้ายจนมุมพบอัดต่างด้าวเพื่อนร่วมชาติหลบหนีเข้าเมืองมาเต็มคันรถ

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ


จนกระทั่ง เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 ขฆ 3313 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาลักษณะฟิล์มมืดทึบและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ ขับขี่มาด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดใช้ความเร็วพยายามขับหลบหนีประมาณ 3 กิโลเมตร
จนมาเจอการจราจรรถหนาแน่น บริเวณ กม.51 – 52 ถนนพหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 1 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ พบมี นาย มิน ตู MIN THU อายุ 31 ปี สัญชาติ เมียนมา เป็นคนขับ ตรวจสอบมีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่พอตรวจสอบภายในรถ มีกลุ่มบุคคลชายและหญิง ชาวเมียนมา เป็นชาย 6 คน หญิง 7 คน นั่งโดยสารอัดแน่นมาภายในรถ ตรวจสอบเบื้องต้นทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงเชิญคนขับรถยนต์คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พบว่า แรงงานที่อัดแน่นมาภายในรถ เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
สอบถาม นาย มิน ตู MIN THU อายุ 31 ปี สัญชาติ เมียนมา เป็นคนขับ ให้การ ( ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา )ยอมรับว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 02.00 น.ได้รับการประสานจากชายชาวเมียนมา(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 13 คน ที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อไปส่งปลายทางพื้นที่ กรุงเทพหมานคร โดยได้ค่าจ้าง 1,000 บาท/ครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 13 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง ในพื้นที่ชั้นใน ของ กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงอยุธยาเรียกตรวจสอบและจับกุมไว้ได้เสียก่อน


ด้าน นาย ยา เน ซู อายุ 46 ปี สัญชาติ เมียนมา แรงงานที่ถูกจับพอพูดไทยได้ เล่าว่าตนเองเคยทำงานก่อสร้างที่ประเทศไทยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และกลับบ้านไปดูแม่ พอจะกลับมา พาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางขาดไม่สามารถต่อได้แล้วจึงประสานภรรยาที่อยู่ในไทย เพื่อจะกลับเข้ามาทำงานอีกครั้ง โดยลักลอบเข้ามาพร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งหมด โดยเดินทางมาจากหลายที่ ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 – 15,000 บาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้สอบถามพบว่าไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้ว จึงสั่งข้าวกล่อง น้ำดื่ม มาเลี้ยงแรงงานต่างด้าวทั้งหมด กินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงแจ้งข้อกล่าวหา นาย มิน ตู MIN THU อายุ 31 ปี สัญชาติ เมียนมา คนขับ ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ” ส่วนแรงงานต่างด้าวชายหญิง 13 คน ข้อหา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” พร้อมคุมตัว พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระอินทร์ราชา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่านแล้ว142 times!