ตำรวจวังน้อยปิดล้อม ไอ้เอ็ม ผู้ต้องหาตามหมายจับ เจอยิงสวน 1 นัด ยิงในห้องอีก 1 นัดก่อนเจรจา ตามยุทธวิถีใช้

เวลากว่า 1 ชม.ยอมมอบตัว เจอข้อหาหนักรับกรรม ( เบลอหน้า แฟน ผตห. )
วันที่ 22 มกราคม 2568 พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ได้รับการประสาน ประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก แจ้งว่า นายมานพ หรือ เอ็ม นะรมรัมย์ อายุ 35 ปี ชาว ต.บางลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ผู้ต้องหาตามหมายจับ “ คดียาเสพติด(สมคบ)ฯ ” ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงสั่งการชุดสืบสวน สภ.วังน้อยลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จากการสืบสวนทราบว่า นายมานพ หรือเอ็มฯ ได้เช่าห้องพักอาศัยอยู่ มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ต.พยอม และจะพกพาอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา

พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย พ.ต.ต.ณฐชัย ไชยปลื้ม สว.สส.สภ.วังน้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย ได้ร่วมกันวางแผน เพื่อเข้าทำการตรวจค้นจับกุม นายมานพ หรือเอ็มฯ ภายในห้องพักดังกล่าว เมื่อไปถึง พบว่าประตูถูกล็อคจากทางด้านใน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามยุทธวิถี และได้เรียกให้นายมานพ หรือเอ็มฯ เปิดประตูออกมาพบเจ้าหน้าที่ แต่นายมานพ หรือเอ็มฯ ไม่ยอมเปิดออกมาพบเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้ยินเสียงอาวุธจำนวน 1 นัด ที่ยิงออกมาจากภายในห้องพักฯ กระสุนปืนอยู่กลางประตูห้องฯ ความสูงในระดับหน้าอกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่โชคดีไม่โดนใครได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามต่อรองให้นายมานพ หรือเอ็มฯ ออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล และต่อมายินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นอีกจำนวน 1 นัด ภายในห้องพักฯ เมื่อตรวจสอบไม่พบรอยกระสุนออกมาทางด้านนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ เจรจาต่อรองอีกครั้งจนกระทั่ง จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง นายมานพ หรือเอ็มฯ ได้แจ้งความประสงค์ขอมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เข้าตรวจค้น/จับกุม ตามหลักยุทธวิธี โดยได้แจ้งให้นายมานพ หรือเอ็มฯ เปิดประตูและให้นำอาวุธออกมาวางไว้บริเวณหน้าห้องฯ จากนั้นนายมานพ หรือเอ็มฯ ได้เปิดประตู และได้นำอาวุธืนออกมาวางไว้บริเวณหน้าห้องฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าตรวจค้นจับกุมนายมานพ หรือเอ็มฯ และ พบ น.ส.สมพร ( แฟนสาว ) อยู่ด้วยภายในห้องฯ

ก่อนนำควบคุมตัว มาทำการสอบสวนต่อที่ สภ.วังน้อย งานสืบสวนสถานีตำรวจภูธรวังน้อย พร้อมขอกลาง 1.อาวุธปืนพกสั้น ชนิดลูกโม่ ยี่ห้อ Smith & Wesson ขนาด .32 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก ภายในโม่บรรจุเครื่องกระสุนปืน ขนาด .32 นิ้ว จำนวน 6 นัด 2.เครื่องกระสุนปืนขนาด .32 นิ้ว จำนวน 10 นัด 3.เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 จำนวน 1 นัด
- ปลอกกระสุนปืนขนาด .32 นิ้ว จำนวน 2 ปลอก 5.หัวกระสุนปืน จำนวน 1 นัดในที่เกิดเหตุ และยังพบถุงซิบเล็กจำนวนมาก
นายมานพ หรือ เอ็ม อ้างว่า จังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเรียก ตนเองสติแตก สติเสีย กลัว ตนเองตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นตำรวจบอกว่าเก็บค่าน้ำประปา แต่พอเคาะเริ่มถี่ๆและมีเสียงคนคุยกัน จึงรู้ว่าเป็นตำรวจ เลยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จึงยิงสวนออกมา 1 นัด และขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจคุยโทรศัพท์กับแม่ พอตำรวจตะโกนบอกเวลา สติเตลิดเลยยิงขึ้นเพดานอีก 1 นัด ก่อนคุยกับน้องและแม่บอกว่าถ้าติดยังมาเยี่ยมได้ เลยตัดสินใจมอบตัว ซึ่งตัวเองก็เสพยาเสพติดด้วย และก็อ้างว่าไม่รู้ว่าตัวเองมีหมายจับ ตนเองเคยกระทำความผิดและก็หนีมาอยู่กับแฟนที่หอพักดังกล่าวได้เพียง 2 – 3 เดือน ก็มาถูกจับ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุม นายมานพ หรือเอ็มฯ ในข้อกล่าวหา “ พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน,ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือชุมชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมา ย” และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.องครักษ์ เพื่อดำเนินการอายัดตัว นายมานพ หรือเอ็มฯ ดำเนินตามหมายจับ จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวนายมานพ หรือเอ็มฯ พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ปฎิบัติหน้าที่เชื่อ ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ติดตัวคุ้มครองทำให้นัดแรกที่ยิงสวนออกมาหน้าประตูไม่โดนใครได้รับบาดเจ็บตอนที่เคาะประตู อาทิ ผ้ายัน รุ่นเฮงตลอดกาล วัดศาลเจ้า จ.ปทุมธานี ที่ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก อดีต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1มอบให้เมื่อช่วงเมษายนปี2567 ตอนลงมาตรวจเยี่ยม เหรียญ หลวงพ่อโปร่ง วัดถ้ำพลุตะเคียน จังหวัดชุมพร หรือแม้แต่ สมเด็จ100 ปี วัดระฆัง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตัวในยามออกปฎิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อ่านแล้ว122 times!