ตำรวจ สน ห้วยขวางรวบ ผตห วางเพลิงเผาทรัพย์

เมื่อเวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริเวณลานจอดรถ เฟลตการเคหะห้วยขวาง อาคาร 38 ท้ายซอยรัชดาภิเษก 7 แขวงดินแดง เขตดินแดง จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ฮ้อโตโยต้า แอคคอร์ด สีขาว ป้ายทะเปียน จร 2672 กทม.เสียดายโดนเผาบริเวณด้านหลังรถ ใกล้กันยังพบถังพลาสติกสีขาว ขนาด 19 ลิตร ภายในมีกระดาษที่ไหม้ไฟแล้วบางส่วน จำนวน 1 ถัง




ต่อมา 11.00 น. ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้หลังร้านซักผ้า Wash House รัชดา ปากซอยชานเมือง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบพบถังพลาสติกสีขาว ขนาด 19 ลิตร ภายในมีเศษกระดาษที่ไหม้แล้วจำนวน 2 แผ่น ใกล้จุดเกิดเหตุพบเป็นที่บรรจุถังแก๊สที่ใช้ในการซักอบรีด
หลังทราบเหตุชุดสืบสวนได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดทั้งสองจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้วางเพลิงเผาทรัพย์ทั้ง 2 จุด เป็นคนคนเดียวกัน จึงได้ออกติดตามอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งชุดสืบสวนไปพบตัวอยุ่บริเวณกลางซอยประชาสงเคราะห์ 14 แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. ขณะนั่งอยุ่ ใกล้กันยังพบถังพลาสติดสีขาว ขนาด 19 ลิตร ภายในมีกระดาษที่ไหม้แล้วบางส่วน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น
จากการสอบถามผู้ต้องหา ทราบชื่อคือนัฐพล เดชนลินชัย อายุ 41 ปี รับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามกล้องวงจรปิดที่ก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ทั้ง 2 จุด และได้อ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุนั้นเพราะคนแถวนั้นชอบมาด่าต่อว่าตน ตนจึงเกิดความไม่พอใจจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้แจ้งข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งศาลอาญานำตัวคดีตามกฏหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิช ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ต้องขอชื่นชมชมตำรวจชุมปราบปรามและชุดสืบสวน สน.ห้วยขวาง ที่ลงพื้นที่ไปทันเหตุการณ์ก่อนจะเกิดเหตุบานปลายสำหรับเคสนี้ ภายหลังจากการก่อนเหตุทั้ง 2 จุดเจ้าหน้าที่ได้ทำการเอ็กซเรย์พื้นที่จนสามารถติดตามพบเจอตัวคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิด และจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้ในริมคลองในชุมชนซอยชานเมือง ซึ่งไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ


จากการสอบถามผู่ก่อเหตุ มีลักษณะให้การพูดจาไม่รู้เรื่อง ลักษณะเหมือนทำการปิดบังอำพลางหรือทำเป็นคนวิกลจริต ตำรวจชุดสืบสวนจึงตรวจสอบค้นหาข้อมูลโดยใช้เทคนิคทางการสืบสวนจนทราบชื่อ นามสกุลจริง และภูมิลำเนารวมถึงประวัติทั้งหมด
จากตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยใโทษในข้อหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ และเคยมีพฤติการการทำความผิดในลักษณะแบบนี้มาแล้วในพื้นที่ชานเมือง พฤติการการก่อเหตุจะลงมืดเผาทำลายทรัพย์สินถ้าไม่พอใจ เหตุนี้เป็นเหตุที่อันตราย ถ้าปล่อยบุคคลเช่นนี้ไม่จับมาดำเนินคดีหรือติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็วอาจจะไปก่เหตุเช่นนี้ในจุดที่เป็นบ้านเรือนหรือที่พักอาศัยของประชาชนอาจทำให้เกิดความสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สินได้
เบื้องต้นทางเจ้าหนเาที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา วางดพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น เป็นคดีที่มีอัตราโทษขั้นสูง จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 140,000 บาท.
อ่านแล้ว447 times!