น้ำท่วมกรุงเก่าอ่วมแล้ว 14 อำเภอเกือบทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะตลาดล่างบางปะอิน

แบ่งปันข่าวนี้ :

น้ำท่วมกรุงเก่าอ่วมแล้ว 14 อำเภอเกือบทั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะตลาดล่างบางปะอิน ตลาดเก่าแก่นับร้อยปีท่วมหนักร้านค้าหยุดยาวขาดรายได้

สถานการณ์น้ำ วันที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่าน C13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 3,154 ลบ.ม./วินาที  เขื่อนพระรามหก s.26 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยาระบาย 1,031 ลบ.ม/วินาที ทั้งนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของประชาชน รวม 14 อำเภอ 156 ตำบล 992 หมู่บ้าน 67,580 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ รวม 11,901.29 ไร่  ซึ่งจังหวัดฯ ได้ประกาศเขตประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ แล้ว จำนวน 12 อำเภอ 

                บ่ายวันนี้ 13 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปที่ตลาดล่างบางปะอิน หรือตลาดในบางปะอิน ตลาดเก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าตอนนี้ทั่วทั้งพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 – 50 เซนติเมตรบนท้องถนน ร้านค้าริม 2 ฝั่งปิดหยุดกิจการชั่วคราว แต่ก็ยังพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนที่เป็นทั้งบ้านเป็นทั้งร้าน ยังคงอยู่อาศัย ต้องพบกับความยากลำบากในการเดินทางเข้าออกรถยนต์รถจักรยานยนต์ก็ต้องย้ายออกไปจอดในพื้นที่สูง ห่างนับกิโลเมตร

                ด้านนางสาว พรเพ็ญ อายุ 45 ปี แม่ค้า ขนมครก ภายในตลาด เปิดเผยว่า ตอนนี้น้ำท่วมถึงพื้นบ้านด้านใน ซึ่งแม้จะสูงกว่าถนน 30 เซนติเมตร ก็ถูกน้ำท่วมถนนเข้าท่วมถึงพื้นบ้านแล้วต้องหาไม้มาหนุนสูง ท่วมมาเกือบ 2 เดือน แต่ตอนแรกก็ไม่เท่าไหร่ ถนนท่วมแค่ 10 เซนติเมตร รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ยังพอสัญจรไปมา พ่อค้าแม่ค้าพอขายของได้ แต่ตอนนี้ระดับน้ำสูง 30 – 50 เซนติเมตร ร้านต้องปิด ต้องหยุดเนื่องจากน้ำท่วมสูงทำให้ขาดรายได้ ปีที่แล้วท่วมก็ยังพออยู่ได้แต่มาปีนี้น้ำท่วมสูงมากจนต้องปิดร้านรถก็ต้องไปจอดข้างนอก รวมถึงระวังพวกตะขาบ ที่มากับน้ำอีกด้วย

                ขณะที่ นางสาว มยุรา อายุ 60 ปี แม่ค้าข้าวมันไก่ ก็ต้องปิดร้านเช่นเดียว ทำให้ขาดรายได้ พ่อค้าแม่ค้าบางร้านก็ออกไปขายในพื้นที่สูง ที่น้ำไม่ท่วม แต่ตนเองเช่าอยู่ก็ไม่รู้จะไปไหน เข้าออกก็ลำบาก ต้องหาไม้หาอะไรมาหนุนทำทีนอน ปีนี้หนักกว่าปีที่แล้วแต่ก็ยังไม่เท่าปี 54 แต่ถ้าขึ้นสูงกว่านี้ก็คงต้องทำนั่งร้านอยู่ แต่ที่ลำบากคือร้านต้องหยุดทำให้ขาดรายได้ ตอนนี้จะหาของกินก็ต้องลุยน้ำเข้าออกลำบาก

อ่านแล้ว306 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.