ปราจีนบุรี _ 020265 _ คืบหน้าหนุ่มใหญ่ขับกระบะชน จยย.หนีไม่พ้นโดนยำเละ





กรณีเหตุการณ์ที่ นายวัขชีรายุทธ์ ทองมูล ขับรถยบนต์กระบะ ชน รถ จักรยานยนต์ แล้วหลบหนี ก่อนที่ อาสาสมัครกู้ภัย สัจจะพุทธธรรม กบินทร์บุรี และนายอุทัย ด้วงงาม พ่อ นายช้าง หรือ ชวลิต เฉลยศรี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จะติดตารมไปจนพบนาย วัชชีรายุทธ์ จนสุดท้ายถึงขั้นชกต่อยทำให้นายวัชชีรายุทธ์ ถึงกับหมดสติ ถูกนำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรี
สุด 10.30 น.นายอุทัย ด้วงงาม พ่อนายช้าง หรือ ชวลิต เฉลยศรี เดินทางมาพบร้อยเวรที่ สภ.วังตะเคียน เพื่อสอบถามเรื่องการดำเนินคดีที่นาย วัชชีรายุทธ์ ขับรถชนแล้วหนี แต่ไม่พบ เนื่องจากร้อยเวรออกเวรไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องทำร้ายนายวัชชีรายุทธ์ นายอุทัย เล่าว่า ด้วยความรักลูก และเป็นห่วงอาการขาดเจ็บ และไม่พอใจที่นายวัชชีรายุทธ์ ไม่รับผิดชอบ ขนแล้วหนี จึงขี่รถตามไป และเกิดการโต้เถียงจนบันดานโทสะมีการลงมือทำร้าย โดยยอมรับผิดที่ได้ทำลงไป ยืนยันว่าทำคนเดียวไม่มีการรุมทำร้ายแต่อย่างใด
หลังจากนายอุทัย มาพบร้อยเวรแต่ไม่ได้เจอ จึงเดินทางกลับไปก่อน หลังจากนั้นไม่นาน ทาง นายวัชชีรายุทธ์ พร้อมด้วยภรรยา ลูกสาวและญาติ เพื่อลงบรรทุกระจำวัน พร้อมกันนั้น นางสาว มัลลิกา ทองมูล ลูกสาว นายวัชชีรายุทธ์ ได้นำใบชันสูตรโรคของแพทย์ที่ระบุว่า ทนายวัชชีรายุทธ์ ได้รับบาดเจ็บจากการประสบอุบีติเหตุ ไม่ใช่บาดเจ็บจากการถูกทำร้าย โดยทาง ญาติยืนยันว่า ไม่ยอมรับความเห็นแพทย์ จาก รพ.กบินทร์บุรี ซึ่งตรงข้ามกับความจริงทุกอย่างเพราะพ่อเป็นคนขับรถชนจะเจ็บขนาดนี้ได้อย่างไร ตนไม่ยอมรับและจะมาขอให้ทางตำรวนจมทำหนังสือส่งตัวไปรักษาที่ รพ.จุฬารัตน์ อินเตอร์ 304 แทน




ขณะเดียวกัน นางกิมไล้ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ตอรนที่นาย วัชชีรายุทธ์ ถูกทำร้ายจนแน่นิ่งไปแล้ว ยืนยันได้ว่า นายอุทัย กับลูกชายอีกคน รุมทำร้ายนายวัชชีรายุทธ์ แม้จะล้มลงไปแล้วก็ยังไม่หยุด ทั้งชก ทั้งกระทืบ และทั้งที่นายวัชชีรายุทธ์ ไม่อยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองเอง เพราะสลบ ตนสงสัยว่าทำไมไม่พูดกันดี ๆหรือว่าถ้าโมโหก็อาจชกแค่ครั้งสองครั้งไม่ใช่ทำกันถึงขนาดนี้
อ่านแล้ว472 times!