เกษตรกรไม้ประดับ อีกอาชีพกระทบหนักน้ำท่วม อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมองเห็นถึงความเดือดร้อน
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยายังคงน้ำท่วมสูงแม้จะเริ่มลดลงในหลายพื้นที่ แต่ก็ยังคงท่วมใน 14 อำเภอได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน อำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง อำเภอบางปะหัน อำเภอมหาราช อำเภอบางซ้าย อำเภอภาชี อำเภอลาดบัวหลวง และอำเภอบ้านแพรก รวม 136 ตำบล 809 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 54,819 ครัวเรือน
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตำบลวังพัฒนา อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังพี่น้องประชาชนได้รับความเดือนร้อนน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน บ้านเรือน เกษตรกรไร่นา ได้รับความเสียหาย หลังจากต้องรับสภาพเป็นพื้นที่รับน้ำ แต่ยังมีอีก 1 อาชีพ ที่หลายคนมองข้ามได้รับความเดือดร้อนหนักไม่แพ้กัน แม้จะเป็นกลุ่มเกษตรกรที่กำลังพึ่งจะมาได้รับความสนใจมากในขณะนี้ได้แก่ เกษตรกรปลูกไม้ประดับไม้ใบ ที่ในพื้นที่รับน้ำไม่ได้มีแต่เกษตรกรนาข้าวเท่านั้น ทำให้ตอนนี้เดือดร้อนหลักต้องได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน
นางสาว กาญจนา กิจสอาด อายุ 31 ปีเจ้าของสวนไม้ประดับ เล่าว่าต้นมีอาชีพ ปลูกไม้ประดับ ไม้ใบ ซึ่งต้องขนย้าย ต้นไม้จำนวนกว่า 1 แสนต้น จากพื้นที่ต้นเองกว่า 10 ไร่ เพื่อหนีน้ำท่วมหลักในหมู่ที่ 2 ตำบลวังพัฒนา อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพื้นที่ตนเองก็เป็นพื้นเดียวกับนาข้าว ระดับความสูงเท่ากัน ช่วงน้ำขึ้นตนเองพยามยาม ป้องกันสร้างคันดินสูงกว่าพื้นเป็นเมตร ซึ่งระดับน้ำที่มาปีนี้สูงกว่าปี 60 เราจึงต้องตัดสินใจย้ายต้นไม้ทั้งหมดหนีน้ำดีกว่าที่จะเสี่ยงให้น้ำท่วมต้นไม้เรา เพราะถ้าคันพังน้ำทะลักเข้ามา ต้องเสียหายนับแสนต้น ทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ต้นไม้ที่กำลังจะโต จึงตัดสินใจย้ายดีกว่า จึงได้มาเช่าที่อยู่ด้านนอกในพื้นที่ที่สูงกว่าในตำบลบางซ้าย อำเภอบางซ้ายในเนื้อที่กว่า 8 ไร่ เพื่อนำต้นไม้ทั้งหมดของตนเองหนีน้ำมา ซึ่งได้มีการสอบถามถึงความช่วยเหลือของเกษตรกร ได้รับคำตอบว่าเราเป็นกรณีไม้ประดับ เราไม่ได้เก็บเกี่ยวเหมือนนาข้าว คือรู้ว่าหน้าน้ำท่วมก็เก็บเกี่ยว แต่ของเราต้นไม้ปลูกอยู่กับที่ของเรา บอกว่าถ้าต้นไม้ตายจะเยียวยา 1 ไร่ 4,000 บาท และต้องเป็นกรณีตายเท่านั้น ซึ่งก็ไม่คุ้มกับต้นไม้ของเราอยู่แล้วเราจึงขนย้ายดีกว่า เรายังถามถึงเรื่องในส่วนการขนย้าย หนีน้ำท่วม ต้องมาทำโรงเรือน ทำแสลน ใหม่ทั้งหมด กว่า 2 แสนบาท ที่ย้ายออกมาจากพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งถ้าเราไม่ย้ายหนีออกมาความเสียหายจะไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมามองในพื้นที่อำเภอบางซ้าย ไม่ได้มีอาชีพทำนาอย่างเดียว แต่มีอาชีพอื่นอีก ถ้าเกิดน้ำท่วมขึ้นมาเขาต้องเสียหาย ซึ่งในอำเภอก็มีหลายสวนที่รู้จักกัน ก็ได้แต่บอกต้องช่วยเหลือตัวเองกันก่อน พื้นที่เราต้องเป็นพื้นที่เสียสละ แต่เสียสละแล้วได้อะไร พื้นที่อำเภอบางซ้ายเป็นพื้นที่แก้มลิงรับน้ำ นโยบายระดับประเทศแต่ว่าไม่มีสิทธิพิเศษอะไร เป็นพื้นที่รับน้ำ เป็นพื้นที่ที่ต้องเสียสละ
อ่านแล้ว414 times!
