สถานการณ์น้ำท่วมชาวบ้านท่าดินแดง อำเภอผักไห่ ท่วมหนัก บ้านเรือนริมน้ำท่วมถึงชั้น 2 นายก อบต.ท่าดินแดง เผยท่วมนาน 4 เดือนแล้ว วอนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมทุกปีแบบยั่งยืน ไม่ใช่แก้ไขปัญหากันแบบผ่านไปวันต่อวัน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผลกระทบหลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ้านเรือนริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้านแล้ว หลังน้ำขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอผักไห่ ท่วมสูงถึง 16 ตำบล 128 หมู่บ้าน กว่า 7,556 ครัวเรือน
โดยผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไป ยังชุมชน ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งบ้านเรือนประชาชนส่วนใหญ่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อย ซึ่งตอนนี้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย เพิ่มสูงขึ้นมาหลายจุดท่วม 4 – 5 เมตร บ้านเรือนหลายหลังคาเรือนน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของตัวบ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องใช้เรือเข้าออกได้รับความเดือดร้อน ความลำบาก มานาน 4 เดือน
นาย ณัฐธร มงคลร้อย นายก อบต.ท่าดินแดง เปิดเผยว่า ตอนนี้ในพื้นที่ ตำบลท่าดินแดง 8 หมู่บ้าน 600 กว่าครัวเรือน น้ำท่วมทั้งหมด 100 เปอร์เซ็น คาดว่าน้ำจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ให้พื้นที่เราเป็นพื้นที่รับน้ำ พื้นที่เสียสละ กับการดูแล ความทุกข์ของประชาชน ยังไม่เหมาะสม ถามว่า 9,000 อยู่มา 4 เดือน เฉลี่ยแล้ว เดือนละ 2,000 กว่าบาท
ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ อยากได้การบริหารการจัดการน้ำ ที่เป็นธรรม ให้เป็นทุ่งรับน้ำแต่พอน้ำมาทุ่งที่เตรียมไว้ไม่ได้รับการระบายไป กลับมาอยู่กลับบ้านเรือนประชาชน เขาเดือดร้อน ก็ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาของคน ผักไห่ บางบาล เสนา ซึ่งตอนนี้การแก้ปัญหาก็เป็นปีต่อปี ไม่ได้แก้ปัญหายั่งยืน อยากให้แก้ปัญหาแบบยั่งยืน เงินที่มาให้ทุกปีทุกปีนำไปแก้ปัญหาคุ้มกว่า
ปัญหาตอนนี้ คือ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ท่วมทุกปี อย่างตำบลท่าดินแดง น้ำมาเยอะ ท่วมมา 4 เดือนแล้ว ที่เขาลำบาก หน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือก็มีมาแต่ไม่เพียงพอ ถุงยังชีพ 1 ถุง ก็อยู่ได้ประมาณ 7 วัน เงินที่ได้มา 9,000 ดีใจน้ำลง แต่ตอนนี้กลับสูงขึ้น มากกว่าเก่า แถมมาครั้งนี้เกือบเท่าปี 54 ชาวบ้านก็ต้องทนรับทุกข์กันไป
ตอนนี้ถ้าน้ำทรงอยู่ระดับนี้ก็ยังพอทนได้ แต่ถ้าสูงมากกว่านี้ มันก็จะไม่มีพื้นที่ดินให้ยืนแล้ว จะเป็นพื้นที่นำแทบทั้งหมดแล้ว บ้านเรือนก็เข้าออกทางหน้าต่างแจกถุงยังชีพรับกันบนหน้าต่าง ลองคิดดูสภาพดูว่าลำบากขนาดไหน การกิน การอยู่ โดยเฉพาะการขับถ่าย และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือภาวะโรคเครียดที่จะตามมาเกือบทุกครัวเรือน คนเท่าคนแก่ เกือบทุกครัวเรือนอยู่แต่ในบ้านไม่ได้ไปไหน ได้แต่นั่งมองน้ำ ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดูแลที่รับผิดชอบ ทำแบบจริงจัง ที่เห็นประท้วง กันไม่รู้จะแก้กันจริงจังไหม หรือประท้วงกันวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไป อยากให้แก้ปัญหาแบบยั่งยืน
อ่านแล้ว60 times!
