ตำรวจทางหลวงอยุธยารวมหนุ่มวัย 31 ปีแปลงกระบะยัด16 ต่างด้าวเข้าเมือง หวังแฟงตัวมาในวันลอยกระทง พบประวัติไม่เข็ดหลาบถูกจับมาแล้ว 2 ครั้ง มาครั้งนี้ ครั้งที่ 3 คอตก เจอยาเสพติดด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1กก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.ส.ทล.1กก.1บก.ทล., ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ, ร.ต.อ.คมสันติ์ วรทรัพย์ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ด.ต.วิชัย ตามสมัย, ด.ต.อรรถพล แก้วเพ็ชร, ด.ต.วิบูลย์ วุ่นหนู, จ.ส.ต.เจษฎา นววิศิษฏ์กุล และส.ต.ท.ปรเมศวร์ คำบาล ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.
ตามนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้กวดขันจับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มที่น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ( ตำรวจทางหลวงอยุธยา )ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

จึงได้สืบสวนในพื้นที่และจากการสืบทราบว่าจะมีการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากพื้นที่ จังหวัดตาก มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเฝ้าระวัง จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ MITSUBISHI TRITON สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 1 ขฬ 3477 กรุงเทพมหานคร มีการขับขี่ที่เปลี่ยนช่องทางกะทันหันและใช้ความเร็วสูง โดยลักษณะรถมีการปกคลุมด้วยผ้าใบอย่างมิดชิดลักษณะคล้ายบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ มีเหตุอันควรต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยาจึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด
จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.46 – 47 ถนนสายเอเซีย(ขาเข้า)ทล.32 ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ เบื้องต้นสอบถามชื่อ นายบุญช่วย อายุ 31 ปี ชาว ต.หนองบัวใต้ อ.เมืองตาก จ.ตาก เป็นผู้ขับขี่
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงสอบถามผู้ขับขี่ว่าบรรทุกสินค้าชนิดใดมา นายบุญช่วยฯ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจำนวน 16 คน จากนั้นจึงเริ่มทำการตรวจสอบโดยมี นายบุญช่วยฯ เป็นผู้นำตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติจำนวน 16 คนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาและสัญชาติจีน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดงต่อเจ้าพนักงาน

จากการตรวจสอบบริเวณภายในรถยนต์พบว่ามีการถอดเบาะด้านหลังทั้งชุดและปูพื้นด้วยผ้าสีฟ้าโดยจัดทำที่นั่งผู้โดยสารและสามารถบรรทุกคนได้มากกว่ารถยนต์ปกติ และจากการตรวจสอบบริเวณด้านท้ายรถพบว่ามีการเสริมไม้เป็นสองชั้นโดยชั้นบนเป็นชั้นวางกระเป๋าสัมภาระส่วนด้านล่างเป็นช่องไว้สำหรับให้แรงงานต่างด้าวนอนอยู่เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ให้ดูเหมือนการบรรทุกสินค้าการเกษตรทั่วไป โดยภายในห้องโดยสารดังกล่าวจัดให้มีช่องระบายอากาศเพื่อให้คนต่างด้าวมีอากาศหายใจ แล้วจึงใช้ผ้าใบปิดปกคลุมอำพรางอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเมื่อมองด้วยตาเปล่ามองคล้ายกับรถยนต์ที่บรรทุกสินค้าการเกษตร
ภายในรถขวดขนมพลาสติกสีแดงพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ วางอยู่ข้างคันเกียร์ด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่พบ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาบ้า) รวมทั้งหมด 34 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาไอซ์) ชนิดเกล็ดใสบรรจุมีซิปรูดเปิด-ปิด น้ำหนักชั่งรวมถุง 0.3 กรัม บรรจุอยู่ในขวดขนมพลาสติกสีแดงพันด้วยเทปพันสายไฟสีดำ วางอยู่ข้างคันเกียร์ด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่
สอบถาม นายบุญช่วย ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. ตนได้เดินทางจากบ้านพักของตนไปหานายจ๋อ(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล)ซึ่งเป็นคนรู้จัก เพื่อประสานงานขอรับงานวิ่งคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จากนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้ขับขี่รถยนต์กระบะ เพื่อไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 16 คน จาก จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทาง จ.ปทุมธานี โดยได้ค่าจ้างจำนวน 500 บาท ต่อคนต่างด้าว 1 คน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางหลวงเรียกตรวจสอบ ส่วนยาเสพติด รับว่าเป็นของตนจริง

ตรวจสอบประวัติยังพบว่าเคยถูกจับกุมมาแล้วก่อนหน้า 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดนจับที่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และโดนจับที่ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ขนแรงงานต่างด้าว และมาโดนครั้งที่ 3 ล่าสุดนี้ พร้อมยาเสพติด
ส่วนแรงงานที่นั่งมาในรถให้การยอมรับว่าผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาและภาษาจีน ได้ลักลอบนั่งเรือจากฝั่งเมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย โดยชาวเมียนมาเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าจำนวนเงิน 20,000 บาท และชาวจีนเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าจำนวนเงิน 130,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงแจ้งข้อกล่าวหา นายบุญช่วย คนขับ ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม,2.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า,ยาไอซ์)) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ” ส่วนแรงงานทั้งหมด ข้อกา “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” พร้อมคุมตัวทั้งหมดและของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
อ่านแล้ว60 times!

