ชาวน้ำเต้า อำเภอมหาราช หลั่งน้ำตาสุดอาลัย กว่า 49 ปี ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงสร้างอาชีพทอผ้าช่วยเหลือชาวบ้าน

วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ ไปยัง ศูนย์ศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า อาคารทอผ้าศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า ตำบลน้ำเต้า อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ นางพยัพ บุญเหลือ อายุ 66 ปี ประธานกลุ่มพร้อมสมาชิก มี นางกุหลาบ วินิจฉัย อายุ 68 ปี นาง ทองย้อย ฤทธา อายุ 63 ปี และ นางบำเพ็ญ สว่างอรุณ อายุ 66 ปี กำลังประดับผ้าขาวดำ ต่อหน้า พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ตั้งอยู่ภายในอาคารทอผ้าแห่งนี้ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
โดยเท้าความ ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ.2519 เกิดน้ำท่วมใหญ่ภาคกลางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นาล่มเสียหายมาก หลังน้ำลด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรที่ถูกน้ำท่วมหลายพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง
ทรงทราบว่า อำเภอมหาราชประสบปัญญาน้ำท่วมมากกว่าทุกอำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มได้รับภัยจากน้ำท่วมเกือบทุกปีติดต่อกัน และ ตำบลน้ำเต้า ประชาชนยากจนมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านหม่อมปภาดา เป็นหัวหน้าคณะรับผิดชอบเข้าไปดูแลช่วยเหลือราษฎรในตำบลน้ำเต้า โดยการจัดตั้งกลุ่มทอผ้า เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ราษฎรขึ้นที่ วัดน้ำเต้า โดยใช้พื้นที่ใต้อาคารเรียนโรงเรียนวัดน้ำเต้า เป็นโรงทอชั่วคราว และมักประสบปัญหาที่ทำให้ต้องหยุดชะงักการทอผ้าในช่วงฤดูฝน น้ำหลาก ห้วยเดือนมิถุนายน – กันยายน ของทุกปี
ปัจจุบันกลุ่มทอผ้าด้วยมือตำบลน้ำเต้า ได้สถานที่ทอผ้าแห่งใหม่ นำโดย นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่น และเป็นสุขสุข ที่ได้ประสานงานในการจัดสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา บรมราชินีนาถ ณ วัดน้ำเต้า หมู่ที่ 3 อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารอย่างเป็นทางการ เมื่อ ปี 2520 เป็นศูนย์ทอผ้าฝ้ายด้วยมือ โดยใช้ กี่ กระตุก เกิดขึ้นมานับตั้งแต่ครั้งนั้นมาจนถึงปัจจุบัน




นางพยัพ บุญเหลือ อายุ 66 ปี ประธาน ศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า เล่าถึงเรื่องราว ว่า ศูนย์ตรงนี้เริ่มทำมาตั้งแต่ ปี 2519 เป็นโครงการของพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ท่านมาฝึกอบรมให้ชาวบ้านได้มีอาชีพเสริมจากการทำนา หลังจากที่น้ำท่วมนาข้าวเสียหายหมด พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเสด็จมาตรวจเยี่ยมจึงได้ดำริ จัดให้ตั้งศูนย์สร้างอาชีพ เปิดฝึกอบรมทอผ้า โดยพระองค์ท่านถามว่าจะเอากันไหม จะมาเสริมอาชีพให้ ก็มีทางกำนันผู้ใหญ่บ้านมาสอบถามว่าจะทำไหม ชาวบ้านก็รับว่าทำ ท่านหม่อมปภาดามาประชุมครั้งแรก และก็มาเปิดศูนย์ฝึกอบรม หาอาจารย์จากกรมส่งเสริมอุตสหกรรม มาสอน เป็นอาจารย์สอนทอผ้า เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านไม่รู้ว่าการทอผ้าเป็นอย่างไร ทำกันเรื่อยมา ตอนแรกมีสมาชิกเยอะมาก ตอนนี้ก็เหลือไม่กี่คน เพราะว่าอายุมากแล้ว
ส่วนใหญ่เป็น ผ้าข้าวม้า ผ้าพื้น ผ้าตัดเสื้อ จนสำเร็จเป็นผ้าชนิดเนื้อดี เมื่อปี 2521 สมเด็จพระเทพฯท่านก็เสด็จมาเปิดโครงการที่อาคารที่ใต้ถุนโรงเรียน จนมีผ้าตัวอย่างมาถวาย เป็นผ้าเก่า จนสมเด็จพระเทพท่านชอบ ก็เลยปรึกษา ทางร้านจิตลดา จนทราบลายและมาแกะสอน ป้าที่ทำ ซึ่งไม่มีชื่อเพราะเป็นผ้าตัวอย่าง จม สมเด็จพระเทพฯ ท่านตั้งชื่อว่า ผ้าลายดอกจอก ให้ประจำอยู่อาคารศูนย์ทอผ้า น้ำเต้าแห่งนี้ตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้
พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านไม่ได้มาตรงนี้โดยตรง แต่ท่านคือคนที่ริเริ่มก่อสร้างให้พวกป้ามีอาชีพมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่อยมา กว่า 49 ปี
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ รู้สึกเสียใจมาก ตอนนี้ก็ยังคงเศร้า พอนึกถึง เห็นรูปพระองค์ท่านก็หลั่งน้ำตามาแบบเสียใจอยู่ตลอดเวลา เหมือนไม่มีท่านแล้ว เพราะอาชีพทอผ้า เกิดจากพระองค์ท่าน ป้าเองก็ไม่เคยไปตรงไหนเลย ทำตรงนี้มาตลอด ระยะเวลา ตั้งแต่ อายุ 19 ปี มาจนมาปี 2568 แล้ว ป้าคงไม่ไปไหนแล้วจะทำตรงนี้จนกว่าจะไม่ไหว เพราะใจรักสืบทอดเจตนารมณ์ของพระองค์ท่านต่อไป อยากจะกราบขอบคุณพระองค์ท่าน ที่มาสร้างอาชีพให้พวกป้า มีอาชีพ มีกิน มีใช้ทุกวันนี้ ไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่ขอบคุณพระองค์ท่าน นางพยัพ บุญเหลือ อายุ 66 ปี ประธานกลุ่มสมาชิกศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า กล่าวทั้งน้ำตา
นางกุหลาบ วินิจฉัย อายุ 68 ปี สมาชิกผ้า เปิดเผยว่า ตนเองทำตั้งแต่ทำอะไรไม่เป็นจนมาทอเป็น ก่อนเคยไปทำงานโรงงาน แต่ก็วนกลับมาทอผ้าอีกครั้ง เป็นสิ่งเริ่มต้นที่เราทำเป็น รู้สึกเสียใจ ตอนแรกคิดว่าเป็นข่าวปลอม จนต้องโทรถามเพื่อนร่วมทอผ้า ว่าจริงไหม บอกว่าจริง ความรู้สึกใจหาย ขนลุกท่วมตัว น้ำตาไหล ออกมาแบบว่าพูดไม่ถูกเพราะเรารักพระองค์ท่าน เราทำผ้าเป็นเพราะท่าน คิดไปเรื่อยว่าเราจะเป็นยังไงกันต่อไป เพราะว่าตอนหลังไม่เหมือนตอนสมัยก่อน ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ไม่รู้จะไปทางไหนเมื่อขาดพระองค์ท่าน เป็นแม่ของแผ่นดิน ใครก็รักทุกคน ไม่มีใครจะเหมือน ป้าว่าในโลกนี้ไม่มีใครเหมือน ในหลวงกับพระราชินีของเรา

ด้าน นาง ทองย้อย ฤทธา อายุ 63 ปี สมาชิกทอผ้า ตอนนั้นดีใจที่ได้มาสัมผัส จากเราไม่เป็นจนเป็นมาทุกวันนี้ พระองค์ท่านทรงเห็นว่าชาวบ้านมีฝีมืออยู่ เขาให้คนมาฝึกสอน เพื่อเป็นอาชีพเสริมในช่วงน้ำท่วม เสียใจ พูดอะไรไม่ออก พูดไม่ถูก อยากบอกแค่ว่าเราจะยังคงทำต่อไปตราบจนเราจะไม่ไหว เรียกว่าทำกันมาที่มาอยู่ตรงนี้จากเด็กๆกันเลยจนมาถึงทุกวันนี้
ชื่อเดิม เป็นโครงการทอผ้า ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จนมีการขอชื่อใหม่ จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็น ศูนย์ศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า มาจนถึงปัจจุบัน อาคารทอผ้าศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า ตำบลน้ำเต้า อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เหลือสมาชิกทอผ้ากันอยู่ 5 คน ผ้าที่ได้ก็จะส่งไปยัง มูลนิธิ ส่งเสริมศิลปาชีพ สวนจิตรลดา โดยจะเป็นผ้าฝ่าย ทอมือ ทั้งหมด ก็จะเป็นผ้าลายดอกจอก ลายประจำ ศิลปาชีพฯวัดน้ำเต้า ตำบลน้ำเต้า แห่งนี้ ก็จะเป็นผ้าคลุมไหล่ ผ้าซิ่น ผ้าตา ผ้าริ้ว ผ้าพื้น ผ้าขาวม้า และ ผ้าตัดเสื้อ
อ่านแล้ว86 times!

