รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่สุราษฎร์ กำชับการปฏิบัติตรรจสอบการถือครองที่ดินเเทนต่างชาติบนเกาะพะงัน-เกาะสมุย ดำเนินการ 4 ด้านเข้มงวด จัดการนิมินี

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 20 ต.ค.68 ที่ห้องประชุมตำรวจฎธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ. สำราญ นวลมา รองผบ.ตร. พ.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้วา่ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามการปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล และนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีมีการถือครองที่ดินและประกอบกิจการหรือดำเนินธุรกิจแทนคนต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย หรือคดีความผิดที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ในพื้นที่เกาะพะงันและเกาะอื่นๆ


ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สังการให้ ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง บูรณาการการทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมที่ดิน กรมพัฒนา และหน่วยงานด้านความมั่นคง ตรวจสอบกรณีดังกล่าวอย่างละเอียด ทั้งนี้ คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำผิดของคนต่างด้าว ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดย นายบันดาล สถิรขวาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อม พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รองผบช.ภ.8 , พล.ต.ต. สุวัฒน์ สุขศรี ผบก.ภ.จว.จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะนายตำรวจผู้ร่วมปฏิบัติการในการเข้าปราบปราม ได้รายงานผล
การปฏิบัติที่ผ่านมา เกี่ยวกับการตรวจสอบความผิดของกลุ่มชาวต่างด้าวในพื้นที่เกาะสมุย และเกาะพะงัน รายงานข้อมูลการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดในข้อหาต่างๆ หลายข้อหา อาทิ ประกอบธุรกิจรถเช่า ทำงานนอกเหนือสิทธิที่จะทำได้ ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบธุรกิจมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต ฯลฯ รวมทั้งได้รายงานแผนการดำเนินการป้องกันปราบปรามในลำดับลำดับต่อไป ของคณะทำงานเฉพาะกิจ

พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การปราบปรามชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดกฎหมายก่ออาชญากรรมสร้างความเสียหายให้คนไทยในประเทศไทย เป็นนโยบายที่รัฐบาลและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ โดยกรณีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดแนวทางดำเนินการไว้ 4 ด้าน ได้แก่ 1.ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจร่วมในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการถือครองที่ดินโดยนิติบุคคลต่างด้าวและการดำเนินธุรกิจที่อาจเข้าข่ายหลีกเลี่ยงกฎหมาย 2.ตรวจสอบเส้นทางการเงินและเอกสารประกอบธุรกิจ เพื่อพิสูจน์การถือหุ้นที่แท้จริงของบริษัทที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ลงทุน 3.การเข้มงวดการอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับกระทรวงแรงงาน เพื่อป้องกันการประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย และ 4.ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดต่อทั้งผู้กระทำผิดและผู้ให้การสนับสนุน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่อาจเกี่ยวข้อง ขอให้ณะทำงานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวอย่างเข้มข้นจริงต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใส และเท่าเทียม เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป
/////
อ่านแล้ว352 times!

