พ่อน้องออนิวคอตกขับแต่งซิ่งสวมป้ายแดงหวังหลบไฟแนนซ์แต่ดันมาเจอตำรวจทางหลวงอยุธยา เรียกตรวจ พบเป็นป้ายปลอม เจอข้อหาหนัก ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 11 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง บนถนนสายเซีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ในพื้นที่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และพ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา พบเห็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก ออนิว 4 ประตู ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน ( ป้ายแดง ) ธ – 9375 กรุงเทพมหานคร และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง ขับขี่ผ่านมา ต้องสงสัยใช้แผ่นป้ายแดงที่ไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดจอด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ช่วงหลัก กม.47 – 48 ถนนสายเอเชีย ( ขาเข้า ) ในพื้นที่ ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตรวจสอบ มี นายยุทธศักดิ์ อายุ 29 ปี ชาว ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูใบอนุญาตขับขี่,สมุดคู่มือประจำรถ ( ป้ายแดง ) และแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน( ป้ายแดง ) ธ – 9375 กรุงเทพมหานคร ที่ติดมาด้านหน้ารถยนต์คันดังกล่าว
ปรากฏว่ามีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้อง แต่ไม่มีสมุดคู่มือประจำรถ( ป้ายแดง ) จึงนำรถยนต์ และ เชิญตัวผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว มาตรวจสอบที่ สถานีตำรวจภูธรมหาราช อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปรากฏว่า แผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน ( ป้ายแดง ) ธ – 9375 กรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่มีลายน้ำด้านหน้าและไม่มีอักษร ขส.ที่ด้านหน้า และ ด้านหลังแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว และไม่มีเลข ( Running Number ) ที่มุมด้านซ้ายของแผ่นป้ายทะเบียน ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงทำการตรวจสอบ พบว่า ผู้ถือกรรมสิทธิ์ เป็นบริษัทไฟแนนซ์ แห่งหนึ่ง ผู้ครอบครอง นายยุทธศักดิ์
จากการสอบถาม นายยุทธศักดิ์ ให้การว่า วันนี้ตนได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาจากจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อไปทำธุระที่จังหวัดปทุมธานี ทะเบียนดังกล่าวอยู่ในตู้ที่บ้านที่ต่างจังหวัด จึงเอามาใส่โดยตนนั้นนำมาใช้งานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพราะ กลัวไฟแนนซ์มาเจอยังไม่มีตังไปเคลียร์ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม ” จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป
อ่านแล้ว124 times!
