SCG Smart Living เร่งเครื่อง “Green Innovation” ชูสินค้าวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ รองรับ พ.ร.บ. โลกร้อน มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

แบ่งปันข่าวนี้ :

SCG Smart Living เร่งเครื่อง “Green Innovation” ชูสินค้าวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ รองรับ พ.ร.บ. โลกร้อน มุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

กรุงเทพฯ – เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง (SCG Smart Living) ธุรกิจในเอสซีจี ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด Inclusive Green Growth ด้วยการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชัน “วัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ” รองรับเป้าหมายของประเทศในการก้าวสู่สังคม Net Zero โดยกว่า 80% ของกลุ่มสินค้าได้รับรอง SCG Green Choice มีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP) ครบแล้ว เตรียมความพร้อมตามแนวทางพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ พรบ.โลกร้อน ที่จะมีผลบังคับใช้ต้นปี 2569

การดำเนินงานครั้งนี้เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญภายใต้พันธกิจของธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง “Greenovation for Better Living” ที่มุ่งเน้นการพัฒนา “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค โดยผสานการใช้พลังงานสะอาด เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การหมุนเวียนใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกับผู้บริโภค

“Greenovation for Better Living” ยุทธศาสตร์เพื่อโลกและคนอยู่สบาย

นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง (SCG Smart Living) บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า“เราเชื่อว่าการอยู่อาศัยที่ดีในวันนี้ ต้องไม่เบียดเบียนโลกในวันข้างหน้า SCG Smart Living ไม่เพียงแค่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อผู้ใช้ แต่ยังต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เราจึงเร่งลงทุนด้านนวัตกรรมที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นระบบ ตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการใช้งานและการจัดการหลังใช้งาน”
SCG Smart Living ได้วางเป้าหมายพัฒนา “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” 5 เรื่องหลัก ได้แก่:

  1. ลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งส่งผลให้เกิดผลลัพธ์สำคัญ ได้แก่  
  • ใช้พลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์มากถึง 20.6% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด
  • ทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติ ด้วยพลังงานชีวมวล (biomass) คิดเป็น 36%
  • คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้รวมกว่า 67,586 ตัน CO₂ ต่อปี
  1. เพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุเหลือใช้ โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา SCG Smart Living ได้ผลักดันการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านแนวทางต่าง ๆ ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่สำคัญ ได้แก่
  • ใช้วัตถุดิบรีไซเคิลจากภาคอุตสาหกรรมคิดเป็น 8.4%
  • นำเศษวัสดุของเสียจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ถึง 39.7%
  • ลดการพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
  1. ใช้วัตถุดิบและส่วนประกอบที่ปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายต่อผู้ใช้งาน และผู้อยู่อาศัย อาทิ ไม่มีแร่ใยหินในทุกผลิตภัณฑ์, ไม่มีส่วนประกอบของสารอินทรีย์ระเหยง่าย(VOCs)อันตราย, เพิ่มสารเคลือบกันลื่นสำหรับสินค้าไม้พื้น
  2. รับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ
  • ปี 2568 สินค้าในธุรกิจ SCG Smart Living มากกว่า 80% ได้รับการรับรองค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือ Carbon Footprint of Product (CFP) โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ พรบ.โลกร้อน
  • ผลักดันสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์และวัสดุตกแต่ง และฉนวนกันความร้อน/กันเสียง ได้รับการรับรอง Environmental Product Declaration (EPD International) รองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในตลาดต่างประเทศ และในระดับมาตรฐานสากล
  1. แผนระยะยาว มุ่งเน้นไปที่การออกแบบและพัฒนาวัสดุก่อสร้างรวมถึงระบบการก่อสร้างที่ปล่อยคาร์บอนต่ำลง อาทิ วัสดุก่อสร้างที่มีส่วนผสมของวัสดุคาร์บอนต่ำอย่างไม้จากป่าปลูก หรือระบบการก่อสร้างแบบ Prefabrication จากวัสดุคาร์บอนต่ำ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในงานก่อสร้างทั้งระบบ และเพิ่มคุณภาพการอยู่อาศัยในระยะยาว
    ส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากสิ่งแวดล้อมเป็นการกระตุ้นความตระหนักรู้ และเปลี่ยนพฤติกรรมสู่การบริโภคอย่างยั่งยืน

SCG Green Choice ฉลากสิ่งแวดล้อมเพื่อผู้บริโภคยุคใหม่
ฉลาก “SCG Green Choice” คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงคุณสมบัติความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสุขอนามัยที่ดีของผลิตภัณฑ์และโซลูชันในธุรกิจเอสซีจี ตามมาตรฐาน ISO14021 ซึ่งมีคุณสมบัติเด่น ได้แก่:

· ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้พลังงาน
· ช่วยลดการใช้น้ำ หรือวัตถุดิบจากธรรมชาติ
· ผลิตหรือมีส่วนผสมจากวัสดุรีไซเคิล ทดแทนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
· ปลอดภัย ไม่มีสารที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานและผู้อยู่อาศัย
· ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยจากหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่ยอมรับ อาทิ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) , สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ EPD International เป็นต้น

สร้างความร่วมมือระดับอุตสาหกรรม ผลักดัน “เศรษฐกิจหมุนเวียนและคาร์บอนต่ำ” ในการก่อสร้าง

SCG Smart Living ได้ร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและผู้ประกอบการในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมก่อสร้าง 38 บริษัท ภายใต้กลุ่ม ‘CECI (Circular Economy in Construction Industry)’ โดยมีแนวคิดหลักคือ ‘เศรษฐกิจหมุนเวียนและคาร์บอนต่ำ’ เพื่อร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ส่งเสริมการก่อสร้างสีเขียว ซึ่งจะช่วยลดขยะและทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน ไปจนถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ SCG Smart Living พร้อมเดินหน้าเป็นต้นแบบของธุรกิจวัสดุก่อสร้างที่ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียนและคาร์บอนต่ำ” โดยร่วมมือกับพันธมิตรอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และโซลูชันวัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังตอบโจทย์ข้อกำหนดของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change Act) ที่จะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 2569 ได้อย่างครอบคลุม

ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า ที่อยู่อาศัยที่เลือกใช้วัสดุและระบบจาก SCG Smart Living ไม่เพียงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ยังสอดคล้องกับมาตรฐานด้านความยั่งยืนในระดับประเทศและสากล เป็นการลงทุนระยะยาวที่ดีทั้งต่อโลก และต่อชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกมิติ


สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย

อ่านแล้ว46 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.