กระท้อนคลองน้อยสินค้าGI ลำดับที่ 7 ของสุราษฎร์ธานี หนึ่งปีมีให้ชิม2เดือนลูกค้าแห่จองล่วงหน้า
ผู้บริโภคให้ความสนใจ กระท้อนคลองน้อยสินค้า GI ตัวที่ 7 ของสุราษฎร์ธานี ที่มีรสชาติหวานเข้มข้น เนื้อนุ่ม อร่อย 1 ปีมีให้กินเพียงครั้งเดียว ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
นายฉัตรชัย อินทร์เมือง เจ้าของสวนนายเสริม หมู่ที่ 6 ต.คลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เมื่อ20 ปีที่ผ่านมาตนก็ได้ปลูกกระท้อน แต่ประสบปัญหาราคาตกต่ำตนจึงโค่นต้นกระท้อนออกหมดแล้วหันมาปลูกมะนาวแทนแต่ก็ราคาไม่ค่อยจะดี อีกทั้งเพื่อนๆที่รู้จักกันเวลาเดินทางไปไหนเพื่อนจะขอกระท้อนไปกิน แต่เพื่อนยังไม่รู้ว่าเราได้โค่นหมดแล้ว จึงจำเป็นที่จะซื้อของคนอื่นไปฝากเพื่อนแทน ซึ่งปัจจุบันราคาต่อกิโลกรัมก็ไม่ได้ถูกเหมือนตอนที่ตนปลูก จึงมีความคิดที่หันกลับมาปลูกกระท้อนอีกครั้ง กระท้อนที่ปลูกส่วนใหญ่จะปลูกกระท้อนสายพันธุ์ปุยฝ้ายเป็นหลัก โดยปลูกไว้ประมาณ 10 ไร่ ปัจจุบันกระท้อนคลองน้อยได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ลำดับที่ 7 ของสุราษฎร์ธานี เป็นพืชอัตลักษณ์ของตำบลคลองน้อย ที่สามารถอยู่ได้ทั้งสองน้ำคือน้ำจืดและน้ำกร่อย ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างจากกระท้อนที่อื่นๆทำให้มีสชาติหวาน หอม นุ่ม เนื้อหนา ซึ่งกระท้อนที่ตนปลูกส่วนใหญ่จะเป็นทรงพรีเมียมมีผลใหญ่ขนาดน้ำหนัก 7-8 ขีดขึ้นไปบางลูกมีน้ำหนักถึง 1.5 กิโลกรัม ซึ่งกระท้อนที่สวนจะมียอดสั่งซื้อทางออนไลน์ เป็นหลักเพราะมีลักษณะผลที่ทรงกลมสวยลูกใหญ่ เหมาะที่จะนำไปเป็นของฝากญาติหรือผู้ใหญ่หรือแขกบ้านแขกเมือง โดยกระท้อนของตนจะไม่ได้วางขายตามริมถนน เพราะจะลูกค้าประจำสั่งเข้ามาทุกปี ซึ่งจะขายในราคากิโลกรัมละ 120-130 บาท หากขายที่สวนราคากิโลกรัมละ 100 บาท หรือขีดละ 10 บาท ที่ผ่านมาในแต่ละปีจะให้ผลผลิตดี และปีนี้คาดว่าจะให้ผลผลิตมากกว่าทุกปีประมาณ 15-20 เปอร์เซ็นต์ขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการให้ผลผลิต วันนี้ได้เก็บขายไปบางส่วนแล้ว สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัววันละประมาณ 1,500-2,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากขายตามออเดอร์ที่สั่งเข้ามา มองว่าปีนี้กระท้อนของเกษตรกรให้ผลผลิตดีมากเมื่อดูจากจำนวนถุงห่อกระท้อนและการวางขายริมถนนสองข้างทางสายสนามบินสุราษฎร์ธานี ต.คลองน้อย ที่มีร้านขายกระท้อนจำนวนมาก ซึ่งเป็นร้านของเกษตรกรโดยตรงมีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 60 บาท และ 3 กิโล 100 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของผลกระท้อน อย่างไรก็ตามมองว่าอนาคตตลาดการจำหน่ายกระท้อนคลองน้อยยังไปได้เนื่องจากราคาที่จำหน่ายในแต่ละปีก็ไม่แตกต่างกัน เพราะกระท้อนที่นี้ใน 1 ปี มีให้กินเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ด้านนายจักรขจร ชนะทัพ กำนันตำบลคลองน้อย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปัจจุบัน 6 ตำบลในบาง ประกอบด้วย ต.คลองน้อย ต.บางใบไม้ ต.บางโพธิ์ ต.บางชนะ ต.บางไทร และ ต.คลองฉนาก โดยรอบของพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำตาปี มีแม่น้ำและทะเลล้อมรอบส่วนใหญ่ชาวบ้านประกอบอาชีพทางด้านการเกษตร ปลูกมะพร้าว ปลูกปาล์มน้ำมัน ปลูกกล้วย มะนาว และกระท้อนมีพื้นที่ปลูก 230 กว่าไร่ อีกทั้งพื้นที่เป็นดินเหนียวร่วน เหมาะแก่การเพาะปลูก กระท้อนที่ปลูกมีสามสายพันธุ์ ประกอบด้วย ปุ๋ยฝ่าย ยี่หร่า และเหรียญทอง ทำให้กระท้อนที่นี้มีรสชาติที่แปลกกว่ากระท้อนที่อื่นๆเนื่องจากเป้นกระท้อนสองน้ำคือน้ำเค็มและน้ำจืด จนกระทั้งได้ชื่อว่าเป็นกระท้อน GI ลำดับที่ 7 ของสุราษฎร์ธานี ที่ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ทีมีรสชาติหวานเข้มข้น เนื้อนุ่ม อร่อย ความเป็นเนื้อเป็นปุ๋ยมีความพิเศษอยู่ในตัวจึงเป็นอัตลักษณ์ของตำบลคลองน้อย ต่อจาก มะพร้าวเกาะพะงัน หอยนางรม เงาะโรงเรียน ไข่เค็มไชยา ปลาเม็งและขมิ้นชัน เปรียบเหมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า ทั้งนี้ในวันที่ 10-11 สิงหาคม 68 ทาง อบต.คลองน้อยได้จัดงานของหรอย คลองร้อยสาย เพื่อการท่องเที่ยว ได้มีการประกวดกระท้อนทั้งสามสายพันธุ์ ภายในงานและเลือกซื้อกระท้อนได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาดสามารถมาชเที่ยวเลือกซื้อกระท้อนกันได้
สำหรับผู้ที่สนใจและอยากชิมรสชาติของกระท้อนคลองน้อยสวนนายเสริม สามารถสั่งซื้อ หรือสอบถามได้ที่เบอร์โทร 06-5769-9276 หรือที่เฟซบุ๊ก”กระท้อนสวนนายเสริม”ต่อไป
//////
อ่านแล้ว110 times!
