พุทธศาสนิกชนจำนวนมากแห่ร่วมทำบุญตักบาตรดอกไม้ เข้าพรรษา ซึ่ง วัดกะสังข์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรก
เมื่อเวลา 7.30 น.วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่ ที่ วัดกะสังข์ ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พุทธศาสนิกชน ชาวชุมชนวัดกะสังข์ และพื้นที่ใกล้เคียงกว่าหลายร้อยคน เดินทางมาร่วม ตักบาตรดอกไม้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมี พระครูปลัด ญาติ ยโสธโร เจ้าอาวาสวัดกะสังข์ นำคณะสงฆ์กว่า 10 รูปเดินบิณฑบาต กับญาติโยมที่นำดอกไม้มาใส่บาตรทำบุญเข้าพรรษา
ทั้งนี้ วัดกะสังข์ ได้จัดทำบุญ ตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษา ซึ่งถือว่าจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีพุทธศาสนิกชน ชาวชุมชนวัดกะสังข์ และพื้นที่ใกล้เคียง ต่างให้ความสนใจเดินทางมาทำบุญที่วัดร่วมกันตักบาตรดอกไม้ ครั้งแรกในวันนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ต่างอิ่มบุญ อิ่มใจ และจะมีการทำบุญตักบาตรดอกไม้เข้าพรรษาต่อเนื่องตลอดไปทุกปี
ซึ่ง ประเพณี “ ตักบาตรดอกเข้าพรรษา ” เป็นประเพณีเก่าแก่ เชื่อว่ามาจากพุทธตำนาน ที่เมื่อครั้น พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์ ทรงโปรดปรานดอกมะลิมาก ในแต่ละวันจะรับสั่งให้นายมาลาการ นำดอกมะลิสดมาถวายถึง วันละ 8 กำมือ วันหนึ่งขณะที่นายมาลาการกำลังเก็บดอกมะลิ ได้พบเห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์อีกจำนวนหนึ่งเสด็จออกบิณฑบาตร นายมาลาการสังเกตุเห็นพรรณรังษี ฉายประกาย รอบ ๆ พระวรกาย ทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธาพระพุทธองค์อย่างยิ่ง นายมาลาการตัดสินใจนำดอกมะลิที่มีไปถวายแด่ พระพุทธเจ้า
พร้อมกันนั้นก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า
ข้าวของทุกสิ่งที่พระเจ้าพิมพิสารทรงมอบให้เพียงเพื่อยังชีพในภพนี้เท่านั้น แต่การนำดอกไม้ถวายบูชาแก่พระพุทธองค์ สร้างอานิสงส์ได้ทั้งภพนี้และภพหน้า หากถูกประหารชีวิตเพราะไม่ได้ถวายดอกมะลิก็ยินยอม เมื่อภรรยานายมาลาทราบความ ก็เกรงกลัวว่าจะต้องโทษที่สามีไม่ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้าพิมพิสาร ก็หลบหนีออกจากบ้านไป แต่หลังจากที่พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบกลับพอพระราชหฤทัยเป็นอันมาก และได้ปูนบำเหน็จรางวัล ความดีความชอบแก่นายมาลาการ นับแต่นั้นมาชีวิตของนายมาลาการก็อยู่อย่างมีความสุข
อ่านแล้ว322 times!
