นนทบุรี หวิดปะทะเดือด รถเฉี่ยวกลางถนนไม่พอใจคู่กรณีเล่นมือถือ ลากเหล็กขันน็อตทุบรถคู่กรณีพร้อมพวกกว่า10 คนล้อมรถ

วันที่ 2 ก.ค. 67 ที่ สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายอิทธิพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย อาชีพพนักงานขับรถ เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จากกรณี เมื่อเวลา 18.00 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน โดยทางผู้เสียหายขับ รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน ฒศ 4931 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถกระบะบรรทุกโฟม ได้เฉี่ยวชนกับรถสไลด์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในบริเวณซอยวัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาได้มีปากเสียงกัน ทางนายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี คนขับรถสไลด์ ได้ลงจากรถพร้อมกับถือเหล็กขันน็อต และพยายามจะเปิดประตูรถคู่กรณี จากนั้นเดินไปตีที่ฝากระโปรงรถด้านหน้า 1 ครั้ง และขึ้นรถตนเองขับไปจอดที่หน้าอู่รถบริษัทตนเอง จากนั้นรถของผู้เสียหายได้ขับตามมาถึงหน้าอู่รถ และจอดเพราะถูกขวางเอาไว้ ต่อมานาย สมชายได้นำเหล็กขันน็อตออกมาตีไปที่กระจกรถของผู้เสียหายทั้ง 2 ข้างจนแตก และหลุดออกไป จากนั้นก็มีพวกของนายสมชาย กรูกันออกมากว่า 10 คน ล้อมรถผู้เสียหายไว้ และพยายามจะเปิดประตูรถ แต่ไม่สามารถเปิดได้ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับเข้าไปในอู่ซ่อมรถ




นายอิทธิพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี พนักงานขับรถ ผู้เสียหาย สวมเสื้อคอปกสีเทา เล่าว่า ตนขับรถของบริษัทกำลังจะกลับบริษัทเพื่อนำรถไปเก็บ ตรงจุดเกิดเหตุตนขับมาเลนซ้าย ทางคู่กรณีขับมาเลนขวา เป็นลักษณะขับตีคู่กันมา แต่มือถือของตนดังขึ้นจึงก้มลงไปมอง จังหวะนั้นรถของคู่กรณีได้เปลี่ยนเลนจะเข้ามาเลนซ้ายและกระจกฝั่งซ้ายของคู่กรณีเฉี่ยวกับบริเวณผ้าใบคลุมหลังคารถของตนแค่นิดเดียวเท่านั้น ตนและคู่กรณีจึงจอดรถแต่ตนไม่ได้ลงจากรถเพราะกลัว เนื่องจากเห็นว่าทางคู่กรณีถือเหล็กลงมาด้วย และพยายามจะเปิดประตูรถให้ตนลงไป ตนก็ได้แค่ยกมือขอโทษเขาไป แต่เขาเหมือนจะไม่พอใจ เดินไปหน้ารถและใช้เหล็กตีไปที่ฝากระโปรงหน้ารถ 1 ครั้ง จนเป็นรอยบุบและได้กลับขึ้นรถไป จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยเป็นการขับคร่อมเลนเพื่อไม่ให้ตนแซงได้ และไปจอดต่อที่หน้าอู่ซ่อมรถของคู่กรณี จากนั้นก็เดินลงมาพร้อมกับท่อเหล็กอันเดิมและตีกระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวาจนแตกและหลุดออกไป จากนั้นเพื่อนๆของทางคู่กรณีก็เดินออกมาจากอู่ ประมาณ 9-10 คน มาล้อมรถตนเอาไว้และพยายามจะเปิดประตูรถแต่เปิดไม่ได้ จึงเดินกลับเข้าไป ตนจึงขับรถออกมา ตอนนั้นขับรถมาคนเดียวก็รู้สึกกลัวมาก ไม่กล้าลงจากรถพยายามขอโทษเขาอยู่ในรถแต่เขาคงไม่ได้ยิน ถ้าหากตนลงไปหรือเขาเปิดประตูรถได้ตนไม่อยากจะคิดว่าจะโดนอะไรบ้าง







ด้าน นายสมชาย (นามสมมุติ) ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนขับรถมาและเกิดการเฉี่ยวกันขึ้น ตอนแรกเหมือนเขาจะไม่จอดตนเลยโมโหเลยหยิบเอาเหล็กขันน็อตที่อยู่ในรถลงไป ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรก็พยายามจะไปเรียกให้เขาลงจากรถเพื่อมาคุยกัน แต่เขาไม่ยอมลงตนเลยโมโหใช้เหล็กตีไปที่ฝากระโปรงรถ 1 ครั้ง จากนั้นเดินกลับขึ้นรถและขับออกไป ต่อมาได้ไปจอดอีกครั้งที่หน้าอู่ซ่อมรถซึ่งเป็นบริษัทที่ตนทำงานอยู่ และจอดขวางไม่ให้ทางคู่กรณีขับออกไปได้ จากนั้นจึงลงจากรถและหยิบเหล็กขันน็อตอันเดิมลงไปตีที่ประจกฝั่งซ้ายจนหลุดและเดินไปตีกระจกฝั่งขวาจนแตก พอเพื่อนตนที่อยู่ที่อู่ซ่อมรถได้ยินจึงวิ่งกันออกมาล้อมรถไว้ แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเรียกออกมาแน่นอนและไม่มีใครทำอันตรายคู่กรณี จากนั้นจึงเดินกลับเข้าอู่ไป ตนมารู้ทีหลังว่าคู่กรณีมาแจ้งความจึงเดินทางมาที่โรงพักด้วย ตนยอมรับผิดในสิ่งที่ทำลงไปเพราะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบและตอนเกิดเหตุอยากรีบกลับบ้าน เพราะมีงานต้องไปทำต่อ จึงได้ทำเรื่องไม่ดีลงไป ตนก็อยากจะขอโทษและพร้อมจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด แต่เหมือนทางเจ้าของบริษัทซึ่งเป็นเจ้าของรถเขาจะไม่ยอม

* เบลอหน้าผู้ก่อเหตุด้วยครับ
https://drive.google.com/file/d/1Zdydj6MMUa90UA0SB2wWWR0s9N5DkjJD/view?usp=drivesdk
อ่านแล้ว258 times!
