บังเกอร์กันน้ำท่วมโบราณสถาน วัดไชยวัฒนาราม เสร็จแล้ว ด้าน ผอ.อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เฝ้าเข็มโบราณสถานริมน้ำ ตรวจเช็คอุปกรณ์เตรียมความพร้อมรับมือแล้ว

วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากสถานการณ์การระบายน้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา เร่งระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนมายัง จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ระดับน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองต่างๆที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ เขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำอยู่ที่ 1,479 ลบ.ม./ต่อวินาที เขื่อนพระราม 6 ระบายน้ำอยู่ที่ 261 ลบ.ม./ต่อวินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท้ายเขื่อนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ตอนนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมใต้ถุนบ้าน แล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอผักไห่ และ อำเภอพระนครศรีอยุธยา เฉลี่ยอยู่ที่ 0.20 – 1.00 เมตร ยังไม่กระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน


โดยวันนี้ ที่ โบราสถาน วัดไชยวัฒนาราม ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโบราณสถานสำคัญ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เหลืออีกประมาณ 1 เมตร กว่าๆ จะถึงตลิ่งของวัดไชยวัฒนาราม หลังจากเมื่อวานนี้ นาย นิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหน่วยงายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบ การติดตั้งแนวบังเกอร์ สำเร็จรูปป้องกันน้ำท่วม ความยาว 165 เมตร สูง 1.90 เมตร กว้าง 1.20 เมตร รวม 138 แผ่น ได้ทำการตั้งขึ้นเสร็จแล้วและได้ติดตั้งผ้าใบ ล้อมรอบ เหลือเพียงการนำกระสอบทรายว่างเสริมที่พื้น แนวแนวบังเกอร์เท่านั้น


ด้าน นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในพื้นที่โบราณสถานที่มีการเฝ้าระวังเข้ม จะมีในส่วนที่ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งมีลักษณะติดกับแม่น้ำและเป็นพื้นที่ต่ำที่สุด ถ้าเปิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็จะเกิดที่วัดไชยวัฒนาราม เป็นอันดับแรก ซึ่งเราก็มีการตั้งแผ่นป้องกันน้ำและดูตามสถานการณ์น้ำ ถ้ายังพบว่ามีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆก็จะไปทำระบบป้องกันน้ำโบราณสถานแห่งอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นเรามีการตรวจเช็คอุปกรณ์ป้องกันน้ำท่วม ในเรื่องของเครื่องสูบน้ำ ทราย กระสอบทราย ให้มีความพร้อมใช้งาน ต้องเฝ้าดูสถานการณน้ำอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง
อ่านแล้ว724 times!