ไม่เข็ดหลาบ! หลังถูกจับไม่ถึง 1 เดือน สืบ ตม.1 รวบอีกครั้ง แก๊งเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง เปิดร้านขายโรตี, เคบับ ถนนรามบุตรี , ข้าวสาร แย่งอาชีพคนไทย

ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2566 กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าได้มีกลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา มาเปิดร้านในลักษณะรถเข็น ขายโรตี,เคบับ ซึ่งเป็นอาชีพต้องห้าม แย่งอาชีพคนไทย ทั้งๆที่เมื่อเดือน ก.พ.2566 ที่ผ่านมา กก.สืบสวน บก.ตม.1 เพิ่งนำกำลังเข้าจับกุมไปแล้วนับสิบราย
พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 จึงได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 ตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และนำข้อมูลดังกล่าวประชุมวางแผน เพื่อดำเนินการเข้าตรวจสอบจับกุม พบว่าภายในซอยรามบุตรี และถนนข้าวสาร มีคนต่างด้าวกลับมาเปิดร้านขายโรตีและเคบับ จำนวนหลายร้าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ วันที่ 7 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา กก.สืบสวน บก.ตม.1 เพิ่งนำกำลังเข้าจับกุมไปถึง 11 ราย จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พร้อมแสดงบัตรประจำตัวให้คนต่างด้าวดู โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบนั้น ได้เกิดความโกลาหล คนต่างด้าวหลายรายไหวตัวทันและได้วิ่งหลบหนีไปอย่างอลหม่านทิ้งไว้เพียงรถเข็นขายของ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไว้ได้รวมทั้งสิ้น 4 ราย และสัญชาติลาว 1 ราย รวมทั้งสิ้น 5 ราย ได้แก่







1.นาย เอเอ้ อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมา
- นาง หลอย อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา
- นาง ตันดา อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา
- นาย ลามู อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา
- นาย อำคา แก้ววงษา อายุ 32 ปี สัญชาติลาว
ซึ่งระหว่างการตรวจสอบคนต่างด้าวทั้ง 5 ราย ไม่สามารถแสดงเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ดูได้ ซึ่งการเร่ขายสินค้านั้นเป็นงานต้องห้าม คนต่างด้าวไม่สามารถทำได้ อันเป็นความผิดตาม มาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 และทั้งหมดยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางพรมแดนที่ติดกับประเทศไทย และเข้ามาเปิดร้านขายโรตี, เคบับ รวมถึงสินค้าอื่นๆ โดยมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยที่ค้าขายอย่างถูกต้องในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้ง 11 รายทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางอนุญาตตามกฎหมาย และทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” จากนั้นได้นำตัวทั้ง 5 ราย ส่ง พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้มอบหมายให้ สตม. เป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1 รับผิดชอบงานสืบสวน ที่ได้สั่งการให้เร่งรัดตรวจสอบคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีเงิน อันเป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการที่ทำมาหากินโดยสุจริต รวมทั้งลักลอบจ้างคนต่างด้าวทำงานโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ.
อ่านแล้ว292 times!