กระทรวงพาณิชย์ เผยร้านค้าต้นแบบ 246 รายทั่วประเทศ ตามแนวทาง สมาร์ทโชห่วยพลัส มั่นใจเพิ่มโชห่วยได้อีกไม่ต่ำกว่า 738 ร้านค้า

แบ่งปันข่าวนี้ :

นนทบุรี กระทรวงพาณิชย์ เผยร้านค้าต้นแบบ 246 รายทั่วประเทศ ตามแนวทาง สมาร์ทโชห่วยพลัส มั่นใจเพิ่มโชห่วยได้อีกไม่ต่ำกว่า 738 ร้านค้า

เมื่อเวลา 11.00น. วันที่ 10 ส.ค.65 ที่กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี นายสินิตย์ เลืศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดพิธีลงนามความร่วมมือสมาร์ทโชห่วยพลัส เพื่อดูโชห่วยท้องถิ่น

หนุน 246 ร้านค้าต้นแบบทั่วประเทศ เป็นพี่เลี้ยงกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูโชห่วยท้องถิ่นในพื้นที่ให้ผงาด ขึ้นเป็นสมาร์ทโชห่วย ตามแนวทางสมาร์ทโชห่วย พลัส พร้อมมอบป้ายตราสัญลักษณ์การันตีการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง เคียงข้างประชาชนในชุมชนให้จับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภค-บริโภคได้อย่างสะดวกสบาย และเตรียมส่งต่อการพัฒนาให้ ร้านโชห่วยท้องถิ่นรายอื่นๆ ในชุมชนเข้มแข็งตาม มั่นใจเพิ่มสมาร์ทโชห่วยได้อีกไม่ต่ำกว่า 738 ร้านค้า โอกาสนี้ คิ๊กออฟโครงการสมาร์ทโชวห่วย พลัส ชวนเครือข่ายพันธมิตร 27 องค์กร ลงนาม MOU ยกระดับร้านค้าส่ง-ค้าปลีกไทย ให้มีภาพลักษณ์ใหม่สดใสกว่าเดิม พร้อมสานสัมพันธ์ร่วมกันพัฒนาโชห่วยครบทุกมิติ
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานและสักขีพยาน

ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” โดยมีนายทศพล ทั้งสุบุตร อธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน 6 องค์กร รวม 28 หน่วยงาน ลงนามประกาศ เจตนารมณ์ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการฯ ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ ว่า “วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ภาครัฐ และภาคเอกชนได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการ สมาร์ทโชห่วย พลัส ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ให้ความสําคัญเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประชาชน และธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมาก โดยการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ มีเป้าหมาย ร่วมกันเพื่อผลักดันและพัฒนาร้านค้าโชห่วยให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างโอกาสทางการค้าและ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ทั้งการแข่งขันที่รุนแรงในยุคดิจิทัล และการ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรวางกรอบแนวทางการพัฒนาร้านค้า โชห่วยทุกมิติทั้งระบบ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง นำธุรกิจเข้าสู่ช่องทางการขายในแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมทั้ง ให้การส่งเสริมสนับสนุนภารกิจทุกด้าน มุ่งหมายให้โชห่วยไทยเติบโตด้วยความมั่นคงและอยู่คู่สังคมไทยไปอีกนาน พันธมิตรที่เข้าร่วมลงนามฯ ประกอบด้วย 6 องค์กร ได้แก่ 1) สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย 2) ผู้ผลิตและผู้แทน จำหน่าย (Suppliers) 3) ผู้ให้บริการเทคโนโลยี/ระบบ POS/แพลตฟอร์ม 4) ผู้ให้บริการเสริม 5) กลุ่มสถาบันการเงิน 6) เครือข่าย ธุรกิจ MOC Biz Club THAILAND และ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งสิ้น 28 หน่วยงาน ทั้งนี้ โครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” ตั้งเป้าขับเคลื่อนโครงการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565 – 2569) โดยยกระดับและบูรณาการความร่วมมือ กับหน่วยงานพันธมิตร เดินหน้าจัดกิจกรรมเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการและนำองค์ความรู้มาพัฒนาต่อยอด เพื่อผลักดันร้านค้าปลีกดั้งเดิมให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ที่มีภาพลักษณ์ร้านค้าที่ดี มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหาร จัดการร้านค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ตลอดจนการมีช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ เพิ่มให้ความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ ดึงเอาเอกลักษณ์และคุณสมบัติเด่นของ ร้านค้าไทยขึ้นมาเป็นจุดเด่นเดียสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน


นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกร้านค้าส่งค้าปลีกที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทั่วประเทศ จำ 246 ร้านค้า ให้เป็นร้านค้าต้นแบบ และเป็นพี่เลี้ยงผลักดันให้ร้านโชห่วยเครือข่ายที่อยู่ในท้องถิ่นเดียวกันได้รับการ พัฒนาเป็น สมาร์ทโชห่วย โดยตั้งเป้าหมายไว้ คือ ร้านค้าต้นแบบ 1 ร้าน พัฒนาและผลักดันให้ร้านโชห่วยเครือข่ายที่อยู่ใน พื้นที่เป็น สมาร์ทโชห่วย 3 ร้าน เบื้องต้น คาดว่าจะสามารถเพิ่มร้านสมาร์ทโชห่วยได้อีกจํานวน 738 ร้านค้า ร้านโชห่วยท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนาจนเป็นร้านสมาร์ทโชห่วยจะได้รับตราสัญลักษณ์ ‘สมาร์ทโชห่วยพลัส by DBD และเพื่อน ติดไว้บริเวณหน้าร้าน เพื่อแสดงถึงศักยภาพของร้านโชห่วยท้องถิ่นที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับให้เป็น ร้านสมาร์ทโชห่วย และได้ผ่านการอบรมความรู้ศาสตร์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ มีการนำเทคโนโลยีมาช่วยใน การบริหารจัดการร้านค้า พัฒนาร้านค้าให้มีความสวย สว่าง สะอาด สะดวก สบาย ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้าน และช่วยเพิ่มยอดขาย ตลอดจน มีสิทธิเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ในการช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน โครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส เป็นโครงการที่ต่อยอดจาก โครงการสมาร์ทโชห่วย โดยจะดำเนินการคู่ขนานกันไป ผ่านกลไกการสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างส่วนกลางและระดับพื้นที่ โดยมีกิจกรรมการพัฒนาที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การเสริมสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ โดยอาศัยกลไกความร่วมมือ กับร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ พี่เลี้ยงใชห่วย และมีสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดช่วยติดตามการดำเนินงานและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด สมาร์ทโชห่วย พลัส ขับเคลื่อนโครงการระยะเวลารวม 5 ปี (พ.ศ. 2565 – 2569) โดยปี 2565 กําหนด เสริมสร้างองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการโชห่วยทั่วประเทศ 3,000 ราย และสร้างสมาร์ทโชห่วย 300 ราย ปี 2566 ตั้งเป้าหมายเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าโชห่วย 3,000 ราย และสร้างสมาร์ทโชห่วย 400 ราย และในระยะ 5 ปี คาดว่าจะมีผู้ประกอบการโชห่วยที่ได้รับการเสริมสร้างองค์ความรู้รวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย และได้รับการพัฒนาเป็นสมาร์ทโชห่วย 2,500 ราย โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายพันธมิตรที่มี ศักยภาพเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้และสิทธิประโยชน์ รวมทั้งพัฒนาร้านค้าโชห่วยให้เป็นตัวกลางเชื่อมโยง โครงการต่างๆ จากภาครัฐสู่ประชาชนให้ได้มากขึ้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สินิตย์ เลิศไกร ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาร้านโชห่วย และผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

โดยร้านโชห่วยที่กล่าวมาจะมีบทบาทสำคัญในการกระจายรายได้สู่ชุมชน และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ของประเทศ อันจะนำไปสู่การเติบโตร่วมกันของทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งและมั่นคง ท่ามกลางสถานการณ์การแข่งขันที่ ดุเดือดของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างยั่งยืนต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจการค้า กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ โดยมี 6 หน่วยงานที่อยู่ภายใต้โครงการ ได้แก่ 1.สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย 2.กลุ่มผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย (Suppliers) 3.กลุ่มผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี 4.กลุ่มผู้ให้บริการเสริม 5.กลุ่มสถาบันการเงิน 6.MOC Biz Club Thailand

อ่านแล้ว792 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.