ทลายเครือข่าย ยุ้ย ท่าเรือ ยึดยาบ้า 2.7 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 222 กก.คีตามีน 28 กก. มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท พบมีการใช้เทคโนโลยี ตัดสัญญาณโทรศัพท์ จีพีเอส หลบหนีการติดตามตำรวจ

แบ่งปันข่าวนี้ :

ทลายเครือข่าย ยุ้ย ท่าเรือ ยึดยาบ้า 2.7 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 222 กก.คีตามีน 28 กก. มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท พบมีการใช้เทคโนโลยี ตัดสัญญาณโทรศัพท์ จีพีเอส หลบหนีการติดตามตำรวจ


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2568 ที่ สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี นาย เดชาธร เชาว์เลขา รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา พ.อ.ศรายุทธ พัฒนชัย ผบ.ขกท.ศปก.นสศ. นายอำนาจ เหล่ากอที ผอ.ปปส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ทำลายเครือข่ายยาเสพติด “ โกดัง ยุ้ย ท่าเรือ ”
ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 2,700,000 เม็ด ยาไอซ์ 222 กิโลกกรัม คีตามีน 28 กิโลกรัม รถยนต์ตู้แวน ฮุนได เอชวัน รื้อภายในออกแปลงใช้ลำเลียงยาเพสติด 1 คัน รถยนต์เก๋งใช้กระจายกระยาเสพติด 1 คัน รถจักรยานยนต์ ใช้ในการกระจายยาเสพติด 1 คัน โทรศัพท์มือถือ ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด 2 เครื่อง จับกุมตัวผุ้ต้องหา ได้ 2 ราย คือ นายนพรัตน์ หรือ เอ้ อายุ 32 ปี ชาว ต.ตลาดน้อย อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และนางสาว สิริพร หรือหนึ่ง อายุ 42 ปี ชาว ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 กล่าวว่าการจับกุมทลายเครือข่ายยาเสพติด ของ ยุ้ย ท่าเรือ เป็นความร่วมมือประสานงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน ภ.จว.สระบุรี สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ชุดสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และ หน่วยข่าวกรอง ของเจ้าหน้าที่ทหาร
ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผล จากการจับกุมจากเครือข่ายยาเสพติด ของ นาย นรรศมินทร์ หรือ ยุ้ย เรืองโรจน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญ ที่หลบหนีอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีการสั่งยาเสพติดจำนวนมาก มาให้เครือข่ายกระจายยาเสพติดอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีการใช้รถยนต์ตู้หรู ขนยาเสพติดมาซุกซ่อนเอาไว้ ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.7 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
จึงนำกำลังไปจับกุมตัว ผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมาก มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท หากยาเสพติดล้อตนี้กระจายในตลาดของผู้ค้ายาเสพติด และจะสร้างความเสียหายเป็นภัยสังคม ให้ลูกหลานและคนในประเทศ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายเพิ่มเติมและตรวจอายัดทรัพย์สิน ของผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด


พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมามีการจับกุมยาเสพติดได้ครั้งละจำนวนมาก หลายครั้ง ทำให้กลุ่มขบวนการขนยาเสพติด ใช้เทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนวิธีการเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม ขบวนการขนยาเสพติดกลุ่มนี้ จะเลือกใช้รถยนต์ตู้หรู ที่ทำการถอดเบาะออกภายในห้องโดยสารออกหมด ใช้ในการขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ โดยมีการติดตั้งระบบการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนโดยไม่ต้องจอดรถเพื่อถอดเปลี่ยนยทะเบียน ให้เป็นที่สงสัย ภายในรถมีการติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณจีพีเอช เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องมือทางเทคนิคพิเศษพบความเคลื่อนไหว
ซึ่งทราบว่าเครือข่ายของ ยุ้ย ท่าเรือ เมื่อมีการนำยาเสพติดมาเก็บไว้แล้ว จะมีกลุ่มผู้ต้องหาอีกชุด ใช้รถยนต์เก๋ง และรถจักรยานยนต์ นำยาเสพติดที่ลูกค้าสั่งไปกระจายวางเอาไว้ตามเสาไฟฟ้า และถังขยะ โดยคนสั่งกับคนซื้อจะไม่รู้จักกันเลย ไม่มีการติดต่อกันเลยทางโทรศัพท์หรือทางโซเชียล มีเพียงเจ้าของยาเสพติด คือนาย ยุ้ย ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศที่คอยสั่งการ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนาย นรรศมินทร์ หรือ “ ยุ้ย ท่าเรือ ” เรืองโรจน์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติดรายสำคัญที่หลบหนีการจับกุมไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ยุ้ย ท่าเรือ มีประวัติอาชญากรรมตั้งแต่อายุ 14 ปี ในคดีฆ่าคนตาย เมื่อพ้นโทษออกมา เป็นมือปืนรับจ้าง ก่อเหตุอีกหลายคดี จนถูกจัดอันดับเป็นมือปืนรับจ้าวลำดับที่ 36 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้ติดคุกไปหลายปี ไปรู้จักกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด หลังพ้นโทษออกมาได้มาเป็นพ่อค้ายาเสพติด และมาเป็นผู้สั่งยาเสพติด เข้ามาในประเทศ ถูกออกหมายจับ จนต้องหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติตามจับกุมเครือข่ายของ นายยุ้ย ได้หลายครั้ง รวมถึงครั้งนี้
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการตรวจสอบและทำการขยายผล ถึงเครือข่ายเดียวกันและเครือข่ายอื่นๆ เพื่อเร่งปราบปรามขบวนการยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง

อ่านแล้ว96 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.