ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเจ้าของร้านคาราโอะเกะลักลอบนำเด็กมาขายบริการทางเพศ พร้อมรวบผู้ซื้อบริการ

แบ่งปันข่าวนี้ :

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบเจ้าของร้านคาราโอะเกะลักลอบนำเด็กมาขายบริการทางเพศ พร้อมรวบผู้ซื้อบริการ


ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา
ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล
รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ พงศกร โนรี ประจำ(สบ5) บก.ปคม., พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.อลงกต คชแก้ว ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.อาทิตย์ พุ่มทอง รอง ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง รอง ผกก.5 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.จักรภัทร กลิ่นอ่อน สว.กก.5 บก.ปคม., ร.ต.อ.นที เดชาบูรพา รอง สว.กก.5 บก.ปคม.,ร.ต.ท.สมเกียรติ ทัพพุน, ร.ต.ต.ธนกร ศรีนุ่น รอง สว.(ป) กก.5 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.
ได้ร่วมกันจับกุม
1.นายวทัญญูฯ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5396/2568 ลงวันที่ 17 กันยายน 2568 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “1.ร่วมกันค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก โดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี 2.สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใดแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี และได้ลงมือกระทำผิดตามที่ได้สมคบกัน 3.ร่วมกันเป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการเพื่อการอนาจารซึ่งบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 4.เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไป เพื่อการอนาจารซึ่งบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ไม่เกินสิบแปดปี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม 5.ร่วมกันกระทำด้วยประการใดฯโดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณีหรือจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ 6.ร่วมกันโดยทุจริตรับไว้ จำหน่าย เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป ซึ่งบุคคลอายุเกินสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม 7.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย 8.ร่วมกัน บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด 9.ร่วมกัน บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใด
อันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก 10.ร่วมกันบังคับขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะ ลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด 11.เป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี ซึ่งมีเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย 12.ตั้งสถานบริการ โดยมีรูปแบบ เป็นสถานที่ที่มีอาหาร สุรา น้ำชา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายและบริการโดยมีผู้บำเรอสำหรับปรนนิบัติลูกค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต 13.ตั้งสถานบริการเป็นสถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายนหรือให้บริการ โดยให้มีรูปแบบการจัดอุปกรณ์การร้องเพลงประกอบดนตรีให้แก่ลูกค้า โดยจัดให้มีผู้บริการขับร้องเพลงกับลูกค้า หรือยินยอมปล่อยปละละเลยให้พนักงานอื่นใดนั่งกับลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต 14.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต”
2.นายศักดิ์ดาฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6078/2568 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐาน “1.พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย 2.บังคับ ขู่เข็ญ
ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด 3. บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร
ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด”
สถานที่จับกุม
1.นายวทัญญูฯ จับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้าน ม.1 ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
2.นายศักดิ์ดาฯ จับกุมได้ที่ หน้าบ้าน หมู่6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
พฤติการณ์ สืบสวนเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ออกตรวจร้านคาราโอเกะ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี ผลการตรวจพบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ทำงานอยู่ในร้านดังกล่าว ซึ่งต้องสงสัยว่า จะมีการจัดให้มีการซื้อขายบริการทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์ จึงได้เข้าช่วยเหลือและนำเข้าคุ้มครอง ณ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จ.นนทบุรี และสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี จากการสืบสวนพบว่า เด็กอายุต่ำกว่าปี 18 ปี จำนวน 2 ราย ให้ข้อมูลว่า ตนเองทำงานที่ร้านคาราโอเกะจริง ซึ่ง มี น.ส.นิโลบลฯ หรือ แต๋ม เป็นผู้จัดการร้าน ในขณะนั้นได้คบหากับ นายวทัญญูฯ เจ้าของร้าน และช่วงที่ทำงาน ทางร้านคาราโอเกะ ได้จัดให้มีการซื้อขายบริการทางเพศแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการจริง โดยจะต้องมีส่วนแบ่งให้แก่ร้านค้า 500 บาท ต่อการซื้อบริการทางเพศ 1 ครั้ง ซึ่งจะให้ไปร่วมประเวณีกับลูกค้าที่ห้องเขียว โดยเป็นห้องที่ผู้จัดการร้านให้ใช้พาลูกค้าไปมีเพศสัมพันธ์ที่ดังกล่าว และจากการสืบสวนขยายผลพบว่า ในช่วง มีนาคม 2568 ได้มี นายศักดิ์ดาฯ หรือ ชาร์ป เข้าไปซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่าปีดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ดำเนินคดีแก่ผู้ที่ร่วมกระทำความผิด
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา เจ้าของร้านและผู้จัดการร้านคาราโอเกะทั้งสองรายดังกล่าว รวมถึงลูกค้าที่มาซื้อบริการจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ในร้านคาราโอเกะ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ ภายใน เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาทั้งสองรายเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหา
นายวทัญญูฯ ผู้ต้องหา ให้การว่า เปิดร้านคาราโอเกะ ช่วงประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 หรือประมาณ 5 เดือน ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ชุด กก.5 บก.ปคม. เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะ โดยอ้างว่า น.ส.แต๋มหรือ น.ส.นิโลบลฯ ขณะนั้นมีความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน เป็นผู้จัดการทั้งหมด ทั้งการทำบัญชี รายรับรายจ่ายของร้าน ส่วนตนเองเป็น
ผู้ลงทุนเปิดร้านดังกล่าวเพียงเท่านั้น และในวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ตนเองไม่ทราบว่า เด็กที่ทำงานที่ร้านอายุต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์
นายศักดิ์ดาฯ ผู้ต้องหา ให้การว่า ในเวลาที่เกิดเหตุ ตนเองได้ไปเที่ยวที่ร้านคาราโอเกะจริง โดยไปกับเพื่อน และสั่งสุรามาดื่ม ซึ่งได้มีเด็กในร้านมานั่งดื่มกินด้วย ต่อมาได้คิดเงินพบว่า มีราคา 7,000 กว่าบาท ในส่วนรายละเอียดการซื้อบริการจากเด็ก ตนเองเมาไม่สามารถจดจำได้
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยแก่พี่น้องประชาชนทั่วไป ดังนี้
1.ฝากเตือนผู้ปกครอง ให้ดูแลบุตรหลานของท่านอย่างใกล้ชิด และคอยแนะนำว่า ในปัจจุบันอบายมุขมักจะมาในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งบุตรหลานท่านยังอยู่ในวัยที่ยังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอที่จะพิจารณาได้ว่าอย่างใดสมควร หรืออย่างใดจะทำให้ตนเองได้รับความเสียหายในอนาคต หากปล่อยปะละเลย อาจจะทำให้ถูกชักจูงไปทำสิ่งที่ไม่สมควร
2.ฝากเตือนผู้ซื้อบริการทางเพศ สิ่งใดที่ได้กระทำไปแล้ว แม้จะเกิดขึ้นด้วยความขาดสติ หรือ มีสติ
แต่ความผิดนั้นยังคงอยู่ตลอด ก็สามารถ มีโอกาสจะโดนดำเนินคดีในภายหลังได้ภายในอายุความ
3.ฝากเตือนผู้ที่คิดจะเปิดร้านคาราโอเกะ และลักลอบให้จัดให้มีการซื้อขายบริการทางเพศกับ
เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์ จากเคสดังกล่าวเห็นได้ว่า เป็นการกระทำที่มีการเปิดร้านเป็นร้านคาราโอเกะบังหน้า เพื่อซุกซ่อนการค้าประเวณีเด็กภายใน ซึ่งเมื่อตรวจพบ จะทำให้ถูกดำเนินคดีในภายหลัง ดังนั้น
อย่าได้เห็นเพียงแก่รายได้จากส่วนแบ่งของการขายบริการทางเพศ เพียงไม่กี่บาท เพราะจะทำให้
ตกเป็นผู้ต้องหา ความผิดฐานค้ามนุษย์ และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูง จำคุกกว่า 10 ปี อีกทั้งคดีดังกล่าว
มีอายุความ 20 ปี แต่ไม่นับช่วงหลบหนี จึงขอให้เลิกคิดที่จะกระทำดังกล่าว
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.ต.จักรภัทร กลิ่นอ่อน สว.กก.5 บก.ปคม.
โทร. 06 2387 7795

“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”

อ่านแล้ว72 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.