ร้อยเอ็ด-ขับเคลื่อน “Zero Dropout”รวมพลังทุกภาคส่วน ปั้นร้อยเอ็ดให้เป็นเมืองแห่งโอกาสทางการศึกษา

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมประดับเงิน โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้นท์ จังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้กลายเป็นศูนย์ (Roi Et Zero Dropout)” ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายพิชัยยา ตระชอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมมอบนโยบายสำคัญเพื่อสร้าง “ร้อยเอ็ด เมืองแห่งโอกาสทางการศึกษา” โดยมีผู้บริหารจากหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงาน นายอำเภอทั้ง 20 อำเภอ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายเข้าร่วม

นาย ชนะศักดิ์ ทันธิมา ศึกษาธิการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า โครงการนี้มีเป้าหมายใหญ่ เพื่อ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Leave No One Behind)” ให้เด็กและเยาวชนทุกคนในจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กลับมามีโอกาสเรียนรู้ตามศักยภาพของตนเองอีกครั้ง จากข้อมูลล่าสุด พบว่า เด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาในจังหวัดร้อยเอ็ดมีจำนวนทั้งสิ้น 1,842 คน แบ่งเป็น อายุ 3–6 ปี จำนวน 409 คน อายุ 7–12 ปี จำนวน 68 คน อายุ 13–15 ปี จำนวน 215 คน อายุ 16–18 ปี จำนวน 1,150 คน โดยทุกหน่วยงานจะร่วมกันติดตาม ช่วยเหลือ และส่งเสริมให้เด็กเหล่านี้ได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นในระบบ นอกระบบ หรือการเรียนรู้ตามอัธยาศัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด “เด็กหลุดซ้ำ” อีกต่อไป


ภายในงาน มีการรับชม VTR Thailand Zero Dropout การบรรยายแนวทาง 4 มิติ “ป้องกัน – แก้ไข – ส่งต่อ – ติดตามดูแล” พร้อมพิธีลงนาม MOU ขับเคลื่อน “Roi Et Zero Dropout” ระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม และช่วงบ่ายเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการระบบข้อมูลสารสนเทศให้กับ Admin ตำบล และ ผู้จัดการรายกรณี (Case Manager) เพื่อใช้ติดตามเด็กนอกระบบอย่างใกล้ชิด บรรยากาศเต็มไปด้วยความร่วมมือของหัวใจคนร้อยเอ็ด ที่ตั้งใจสร้างอนาคตให้ลูกหลานได้มีที่ยืน มีการศึกษา และมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
/////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
จันทร์เพ็ญ จารุจำรัส (เอ็ม)สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์ ข่าว
สุทธิชัย อุปปะ (เต็ม) สำนักข่าว ข่าวไทยนิวส์ รายงาน
อ่านแล้ว68 times!

