สื่อมวลชนไทยจับมือเวียดนามใช้เอไอรับมือเฟคนิวส์

แบ่งปันข่าวนี้ :

สื่อมวลชนไทยจับมือเวียดนามใช้เอไอรับมือเฟคนิวส์

สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ย้ำความร่วมมือกับสมาคมนักข่าวเวียดนาม รับมือเฟคนิวส์และเรียนรู้การใช้เอไอเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เพื่อความเข้าใจอันดีของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

การเยือนประเทศเวียดนามของคณะสื่อมวลชนไทย นายนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหารสื่อมวลชนไทย มี นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาพันธ์, น.ส. น. รินี เรืองหนู รองประธานคนที่ 1, นายอนันต์ นิลมานนท์ รองประธานคนที่ 4, นายดำฤทธิ์ วิริยะกุล เลขาธิการ, น.ส.ปิยสุดา จันทรสุข เหรัญญิก และนายกฤษติน นิลมานนท์ เจ้าหน้าที่สมาพันธ์ฯ ได้เข้าร่วมหารือกระชับความสัมพันธ์กับคณะผู้บริหารสมาคมนักข่าวเวียดนาม นำโดยนายเลย์  ก๊วก มินห์ นายกสมาคมฯ และผู้บริหารอีก 6 คน ณ ห้องรับรอง อาคารสมาคมนักข่าวเวียดนาม กรุงฮานอย

นายเลย์ ก๊วก มินห์ นายกสมาคมนักข่าวเวียดนาม กล่าวต้อนรับว่า สมาคมนักข่าวเวียดนาม มีความยินดีที่ได้ต้อนรับคณะผู้บริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้ต้อนรับในการนำสื่อมวลชนไทยมาร่วมแข่งขันฟุตซอลฉลองครบรอบ 100 ปี สื่อมวลชนเวียดนาม เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมที่เชื่อมความสัมพันธ์ได้ดี ไม่ว่าผลการแข่งขันออกมาอย่างไรแต่ความสัมพันธ์ของสื่อมวลชนเวียดนามและไทย ยังมีความแน่นแฟ้นอย๔่เสมอ

พร้อมกันนี้นายเลย์ ก๊วก มินห์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของสื่อมวลชนเวียดนามในปัจจุบันว่า ภายหลังมีการปรับโครงสร้างการบริหารประเทศ องค์กรสื่อมวลชนในแต่ละจังหวัดก็มีการยุบรวม และลดจำนวนบุคลากรลง ขณะเดียวกันสื่อมวลชนก็ต้องเผชิญกับความท้าทายของเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะเอไอที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกสื่อสาร และมีเฟคนิวส์เผยแพร่มากขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ทางสื่อมวลชนเวียดนามก็มีการเรียนรู้เทคโนโลยีด้านการสื่อสารต่างๆ ให้ทันยุคสมัย การไปเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสื่อมวลชนไทยที่ผ่านมา ช่วยสร้างความเข้าใจอันดี จึงอยากให้มีความร่วมมือกันในการเสนอข่าวอาชญากรรมข้ามชาติด้วย เพื่อช่วยป้องกันให้กับประชาชนทั้ง 2 ชาติ การมาเยือนของคณะสื่อมวลชนไทยครั้งนี้ขอต้อนรับด้วยมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน

นายนคร วีระประวัติ ประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า “ขอบคุณในการต้อนรับอย่างดีย่ิงของสมาคมนักข่าวเวียดนาม สื่อมวลชนไทยและเวียดนามมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากว่า 30 ปี มีการแลกเปลี่ยนผู้สื่อข่าวและเผยแพร่ข่าวสารที่สร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ การแข่งขันฟุตซอลที่ผ่านมา สื่อมวลชนไทยสายกีฬาให้ความสนใจมาก และขอเชิญสื่อมวลชนเวียดนามไปแข่งขันที่ประเทศไทยในครั้งต่อไป และขอขอบคุณสมาคมนักข่าวเวียดนามที่ส่งภาพไปประกวดในการประกวดภาพข่าวอาเซียน 2025 ที่สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัด สำหรับเรื่องของเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะเอไอที่เข้ามามีบทบาทในวงการสื่อมวลชนนั้น ที่ประเทศไทยก็มีเช่นกัน รวมทั้งเฟคนิวส์ สื่อมวลชนจึงมีการเรียนรู้และรักษามาตรฐานในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารที่ถูกต้อง เป็นความร่วมมือที่ต้องเดินหน้ากันต่อไป”

ต่อจากนั้นนายเลย์ ก๊วก มินห์ ได้กล่าวถึงการประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียน ที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือนเมษายน 2569 เป็นโอกาสดีที่จะได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องสถานการณ์สื่อในปัจจุบัน ที่จะต้องให้ความสำคัญในการจัดการกับปัญหาที่สื่อกำลังประสบอยู่ และการป้องกันเฟคนิวส์ รวมทั้งให้ความสำคัญเรื่องการเสนอข่าวที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยสื่อมวลชนในอาเซียนต้องช่วยกันนำเสนอข่าวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาการค้ามนุษย์และสแกมเมอร์ที่ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ สื่อมวลชนต้องช่วยกันเสนอข่าวให้ประชาชนรับรู้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ประเด็นนี้ทางนายนครได้กล่าวสนับสนุน ให้มีการพูดคุยกันในการประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียนปีหน้า เพื่อให้สื่อมวลชนในอาเซียนมีบทบาทช่วยป้องกันปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่

ด้านนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ และที่ปรึกษาสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เรื่องการใช้เอไอ และเฟคนิวส์ เป็นปัญหาที่ประเทศไทยเตรียมการรับมือไว้สูง นอกจากมีการส่งเสริมให้สื่อนำเอไอมาใช้ในการผลิตสื่อมากขึ้น ทุกองค์กรมีการฝึกอบรม เรียนรู้ และใช้เอไอให้มีประโยชน์ มีการฝึกอบรมที่มีทั้งการออกแบบ นำผู้เชี่ยวชาญไทยมาอบรมและองค์กรต่างชาติ เช่น กูเกิ้ล มาร่วมด้วย อย่างการใช้เอไอมีการสอนให้ใช้เอไอมาตรวจสอบเฟคนิวส์ด้วย ปีหน้าก็จะเชิญสื่อมวลชนเวียดนามไปชมการใช้เอไอแก้ปัญหาของไทยด้วย ในการเผชิญปัญหาดังกล่าว สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทยและสมาคมนักข่าวเวียดนาม จะมีความร่วมมือต่อเนื่องกันต่อไป เพื่อความเข้าใจอันดีของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ส่วนการประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งอาเซียนปีหน้า ควรเสนอให้เชิญสมาคมนักข่าวติมอร์เลสเตที่เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย ก่อนจะรับเข้าเป็นสมาชิกต่อไป”

สำหรับการไปกระชับความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนเวียดนาม ของคณะสมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศ
ไทย ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 2 พ.ย.2568 ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสนับสนุนได้แก่ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด และ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน)


สมาพันธ์สื่อมวลชนแห่งประเทศไทย

อ่านแล้ว69 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.