ยิงกันกลางอู่ซ่อมรถ พี่ชายคว้าปืนยิงน้องชายเจ็บสาหัส ก่อนขับรถเก๋งหนี

แบ่งปันข่าวนี้ :

ยิงกันกลางอู่ซ่อมรถ พี่ชายคว้าปืนยิงน้องชายเจ็บสาหัส ก่อนขับรถเก๋งหนี


เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ร.ต.ท.ณัฐดนัย บริหาร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันภายในอาคารพาณิชย์ 2 ห้อง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเปิดเป็นอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ชื่อ “ อู่ก่อง ( ก่องกานดา ยานยนต์ ) ” มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายเป็นชายอาการสาหัส ถูกยิง
หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย, พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ภายในอู่ พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อคือ นายธนนท์ ก่องกานดา อายุ 43 ปี ถูกยิงบริเวณแผ่นหลัง 2 นัด นอนบาดเจ็บอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนประสานทีมแพทย์ฉุกเฉินจากโรงพยาบาลราชธานี เข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อย่างเร่งด่วน


จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 1 ปลอก ขนาด 9 มม.จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน
สอบถาม นางจรรยา อายุ 72 ปี แม่ ของผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งอยู่กับลูกชายคนเล็ก ( ผู้บาดเจ็บ ) ภายในร้าน จากนั้น นายอธิบดี อายุประมาณ 47 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโต( พี่ชายผู้บาดเจ็บ ) ได้เข้ามาพูดคุยกับน้องชาย และมีปากเสียงกัน เนื่องจากเคยมีปัญหากันมานาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะกลับมามีปัญหาพูดจากันไม่ลงรอยอีกครั้ง โดยสาเหตุมาจากภรรยาของทั้งสองฝ่ายมักมีเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ จนทำให้พี่น้องมีปากเสียงตามไปด้วย ก่อนเกิดการโต้เถียงอย่างรุนแรง และ พี่ชาย ใช้อาวุธปืนยิงใส่น้องชายก่อนเดินไปขึ้นรถเก๋งที่จอดหน้าร้านหลบหนีไป


เพื่อนบ้าน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงฝนตกใส่หลังคา เพราะตอนเกิดเหตุมีฝนตกลงมา จนเด็กในร้าน ไปบอกว่าเสียงปืน จึงรีบมาดู ก็พบว่ามารดาของผู้บาดเจ็บกำลังร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว หลบหนีไปพร้อมภรรยา
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ เร่งติดตามตัว พร้อมประสานให้ญาติของผู้ก่อเหตุช่วยติดต่อเพื่อให้เข้ามามอบตัว ดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

อ่านแล้ว214 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.