กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจ้ง จนท. จับกุมคนจัดหาลูกกระสุนปืน 40 มม. ให้การรับสารภาพ ก่อนย้อนไทม์ไลน์นำส่งพัสดุไป จ.ตาก ยัน กระสุนล็อต นี้ไม่มีอยู่ในบัญชีสิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพบก

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.68 พ.อ.เอกวริทธิ์ ชอบชูผล รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีบริษัทขนส่งเอกชน ตรวจพบลูกกระสุนปืนขนาด 40 มิลลิเมตร ขณะคัดแยกพัสดุ ที่อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา
ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกล่ำ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ตรวจพบและตรวจยึด ลูกกระสุนปืนขนาด 40 มิลลิเมตร ภายในพัสดุของบริษัทขนส่งสินค้าเอกชน ซึ่งได้รับแจ้งว่าพบขณะคัดแยกสิ่งของเพื่อจัดส่ง โดยมี ผู้ส่งจาก จ.นราธิวาส ไป อ.แม่สอด จ.ตาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัว นายกีซัม วุธางกูร ซึ่งให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้จัดส่งลูกกระสุนดังกล่าว โดยได้เชิญตัวเข้าสู่กระบวนการซักถาม เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการให้การเบื้องต้น ได้ข้อมูล ดังนี้
โดยเมื่อช่วง เดือนก.ค. – ส.ค. 68 นายกีซัม ได้รับการติดต่อจากบุคคลรายหนึ่ง ที่รู้จักกันมาก่อนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีความต้องการจัดหาลูกกระสุนปืนขนาด 40 มิลลิเมตร นายกีซัม จึงติดต่อไปยังผู้จัดหารายหนึ่ง เพื่อดำเนินการจัดหาให้ โดยตกลงราคาซื้อขายกันผ่านช่องทางออนไลน์

ต่อมา วันที่ 14 ต.ค. 68 ผู้จัดหารายดังกล่าวแจ้งว่าสามารถจัดหาลูกกระสุนได้แล้ว แต่ยังไม่สะดวกส่งมอบของ จนกระทั่งวันที่ 20 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ได้มีการนัดหมายให้ไปรับของที่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ภายในสถานีบริการน้ำมัน แยกมลายู-บางกอก ตำบลสะเตงนอก อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ในช่วงเวลาประมาณใกล้เที่ยงคืน
โดยก่อนเดินทางไปรับของ นายกีซัมได้ติดต่อกลับไปยังผู้ว่าจ้าง เพื่อแจ้งราคาลูกกระสุนและขอให้โอนเงินค่าซื้อขายเข้าบัญชีของญาติ จากนั้นนายกีซัม จึงเดินทางไปรับของตามนัด และได้โอนเงินให้ผู้จัดหาผ่านบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนนำลูกกระสุนกลับมาที่บ้านพักในจ.นราธิวาส

ต่อมาในวันที่ 21 ต.ค.68 นายกีซัม ได้นำลูกกระสุนดังกล่าว บรรจุพัสดุและส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้ชื่อและที่อยู่ปลอมทั้งผู้ส่งและผู้รับ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ ที่ซื้อล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ เพื่อปกปิดตัวตนและติดตามการจัดส่งพัสดุด้วยตนเอง
ต่อมาในวันที่ 22 ต.ค.68 ระหว่างที่นายกีซัม เดินทางไปทำธุระส่วนตัว ในพื้นที่อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ทหารได้แสดงตัวเข้าควบคุม และนำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อดำเนินการซักถามเบื้องต้น ก่อนส่งต่อไปยัง ศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามเชิงลึก และขยายผลทางคดีต่อไป
จากการตรวจสอบเบื้องต้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าลูกกระสุนล็อต ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในบัญชีสิ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพบก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนเชิงลึก เพื่อสืบหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม รวมถึงตรวจสอบแหล่งที่มาว่ามาจากแหล่งใด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรอบคอบและโปร่งใส

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการสอดส่องดูแลพื้นที่ และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันเฝ้าระวัง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ บุคคลต้องสงสัย หรือพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ โทรสายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร. 1341 หรือแจ้งต่อหน่วยเฉพาะกิจจังหวัด ในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
“ขอเน้นย้ำว่า การให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดในลักษณะใด ๆ ก็ตาม เช่น การนำพาหลบหนี การให้ที่พักพิง หรือการสนับสนุนด้านเสบียงอาหาร ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
//////
อ่านแล้ว154 times!

