PCE จัดงาน “โครงการสมาชิกสัมพันธ์” ผลักดันน้ำมันปาล์มไทยสู่มาตรฐานESG และ RSPO เพื่อยกระดับเกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืนในตลาดโลก

เมื่อวันที่ 3 ต.ค.68 ที่ บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด ต.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายบันดาล สถิรชวาล รองผู้วา่ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรซ์ จํากัด (มหาชน) น.ส.กัญกร ประสิทธิ์ศุภผล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรซ์ จํากัด (มหาชน) นายกิตติภณ ประสิทธิ์ศุภผล รองกรรมการผู้จัดการสายปฎิบัติงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เครือบริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรซ์ จํากัด (มหาชน) ร่วมเปิดงาน “โครงการสมาชิกสัมพันธ์” ผลักดันน้ำมันปาล์มไทยสู่มาตรฐาน ESG และ RSPO เพื่อยกระดับเกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืนในตลาดโลกโดยมีสมาชิกเข้าร่วมจำนวนมาก

นายประกิติ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PCE จัดงาน “โครงการสมาชิกสัมพันธ์” อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อแสดงความขอบคุณและตอกย้ำบทบาทสำคัญของเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มในฐานะกำลังหลักที่ขับเคลื่อนอุตลาหกรรมน้ำมันปาล์มของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สดของไทย งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างขวัญและกำลังใจ แต่ยังเป็นเวทีสำคัญในการสื่อสารทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ ความยั่งยืน มาตรฐานสากล และการแข่งขันในระดับโลก ปัจจุบัน ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย มีผลผลิตปาล์มสดไม่ต่ำกว่า 18.5 – 19.00 ล้านดันต่อปี และสามารถผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้
มากกว่า 3 – 3.5 ล้านต้นต่อปี ครอบคลมเกษตรกว่า 400,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ แม้สัดส่วนของไทยในตลาดโลกยังมีเพียงราว 3 – 4% แต่ถือว่ามีศักยภาพการเติบโดสูง เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกของไทยยังอยู่
ในระยะขยายตัว (Growth Stage) และลามารถเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้อย่างต่อเนื่อง การสร้างมูลค่าเพิ่มและการพัฒนามาตรฐานการผลิตจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรไทยก้าวสู่ความมั่นคงในระยะยาว และมีส่วนแบ่งตลาดที่มากขึ้นในเวทีโลก

งานครั้งนี้ PCE ได้มุ่งเน้นการให้ความรู้และผลักดันหลักการ ESG (Environmental, Social, and
Governance) และมาตรฐาน RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) luainwasnslass เพื่อสร้างความเข้าใจว่าการทำเกษตรแบบยั่งยืนไม่ไช่แค่การทำตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่เป็น
เครื่องมือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อในตลาดระดับนานาชาติ และเป็นการเปิดประตูสู่ตลาดที่มีศักยภาพสูง เช่น ยุโรปและเอเชียตะวันออก ซึ่งให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อผลิตภัณฑ์ที่มาจากกระบวนการผลิตที่โปร่งใสและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในฐานะผู้นำด้านการบริหารจัดการแบบ Fully Integrated Palm Oil Ecosystem ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การส่งเสริมเกษตรกรกรผู้ปลกปาล์ม การสกัดและกลั้นน้ำมันปาล์ม การผลิตไบโอดีเซลไปจนถึงการจัดเก็บและกระจายสินค้า ทำให้บริษัทสามารถสร้างความยึดหยุ่นในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน และยังสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิตเพื่อแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ การบูรณาการเช่นนี้ไม่เพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้เกษดรกรไทยมีโอกาสเข้าถึงมาตรฐานใหม่ของโลก และได้รับผลตอบแทนที่ยั่งยืนมากขึ้น อนาคตของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มไทยไม่ใช่เพียงการมุ่งเพิ่มปริมาณผลผลิต แต่ต้องสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม

และสิ่งแวดล้อม PCE มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเกษตรกรไทยเข้าสู่ระบบการผลิตที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โปร่งใสต่อสังคม และบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้ เพิ่มโอกาสทางการตลาด และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไปพร้อมกัน “PCE เชื่อมั่นว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มจะต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรและความยั่งยืนของสังคมไทย” เรามุ่งมั่นที่จะไม่เพียงผลิตน้ำมันปาล์มคุณภาพ แต่ยังร่วมกันผลิตอนาคตที่มั่นคง แข็งแรง และยั่งยืนให้กับประเทศด้วยมือของเกษตรกรไทยต่อไป
//////
อ่านแล้ว152 times!