อีกแล้ว ตำรวจทางหลวงอยุธยา รวบ หนุ่มหัวใสถ่ายเอกสารเปลี่ยนเลขปีภาษี เลี้ยงต่อทะเบียนภาษี อ้างค้างค่างวด 4 งวด ไม่มีเงินต่อภาษี เจอข้อหาหนัก ปลอมแปลงเอกสารราชการ

เมื่อเวลาประมาณ 12.45 น. วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดทางอาญาฯ และพ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาฯ ตรวจมาถึง บริเวณช่วงหลัก กม.59 – 60 ถนนพหลโยธินขาเข้า ทล.1 ในพื้นที่ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง ยี่ห้อ โตโยค้า คอมมูเตอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน 16 – 5754 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมา จึงทำการตรวจสอบกับระบบข้อมูลทะเบียนรถยนต์และทะเบียนรถขนส่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีวันสิ้นอายุภาษี 31 มี.ค.2568


เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบว่า นายรุทชาติ อายุ 45 ปี ชาวอำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอดูใบอนุญาตขับขี่รถขนส่ง,แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี ปรากฏว่ามีใบอนุญาตขับขี่รถขนส่งถูกต้องและมีแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี หมายเลขทะเบียน 16 – 5754 กรุงเทพมหานคร วันสิ้นอายุภาษี 31 มี.ค.2569 จำนวน 1 แผ่น ติดอยู่ที่กระจกบานหน้าด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่ จากนั้นจึงทำการตรวจสอบ พบว่ามีข้อมูลทะเบียนคือ 16 – 5754 กรุงเทพมหานคร มีวันสิ้นอายุภาษี 31 มี.ค.2568

จึงได้เชิญตัว พร้อมของกลางมา มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่ สถานีตำรวจทางหลวงอยุธยา 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง
นายรุทชาติฯ ให้การว่า วันนี้ตนได้ขับขี่ รถยนต์ตู้มาจากจังหวัดสระบุรีเพื่อไปทำธุระที่จังหวัดนนทบุรี โดยแผ่นป้ายภาษีที่พบนั้น ตนนั้นเป็นผู้จัดทำขึ้นมาเอง โดยวิธีการแก้ไขข้อมูลภายในแผ่นป้ายภาษีและถ่ายเอกสารด้วยตนเอง และรับว่ายังไม่ได้ไปดำเนินการชำระภาษีกับกรมการขนส่งทางบกแต่อย่างใด จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบจนมาถูกจับได้ อ้างว่า ต่อภาษีรถไม่ได้เพราะตนเองค้างค่างวดรถอยู่ 4 งวด ที่นัดชำระในสิ้นเดือนนี้กว่า 7 หมื่นบาท ไม่อยากเอาออกมาวิ่งแต่จำเป็นต้องวิ่งหาเงินเพื่อไปชำระค่างวดรถ



เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ 1.ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม,2.ใช้รถทำการขนส่งโดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้อง ตามมาตรา 71(2),148 ” จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
อ่านแล้ว398 times!