ตำนานที่ยังมีลมหายใจ สามล้อถีบ 3 คันสุดท้ายของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แบ่งปันข่าวนี้ :

ตำนานที่ยังมีลมหายใจ สามล้อถีบ 3 คันสุดท้ายของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


วันที่ 12 สิงหาคม 2568 วันหยุดวันสำคัญ บรรยากาศนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต่างเดินทางมาท่องเที่ยวไหว้พระทำบุญ กันจำนวนมาก และที่สำคัญหลายคนเลือกการเดินทางเพื่อสัมผัสบรรยากาศโบราณสถานที่แตกต่างกัน อาทิ นั่งช้าง นั่งรถตุ๊กๆ บ้างก็ปั่นจักรยานยนต์ หรือ รถส่วนตัว
แต่ที่วันนี้ผู้สื่อข่าวพาไปดู ที่ หน้า วิหารพระมงคบพิตร อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คือ สามล้อถีบ ที่เหลืออยู่เพียง 3 คัน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำนานที่ยังมีลมหายใจ โดยได้พูดคุยกับ นาย เฉลิม อ่อนโยน หรือ คุณตา เฉลิม อายุ 86 ปี ชาวตำบลหัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับเพื่อนวัย 69 ปี ที่นั่งอยู่กับสามล้อถีบ คู่ใจ


คุณตา เฉลิม เล่าว่า ตอนนี้ สามล้อถีบใน อยุธยา เหลือกันอยู่ 3 คัน อายุก็มากๆพอกัน ผม 86 ส่วนคนอื่นก็ 60 กว่ากันหมด และก็ไม่มีรุ่นอื่นมาปั่นถีบแล้วจะเหลือก็แต่รุ่นผม เพราะถ้ารุ่นผมส่วนใหญ่ก็เสียชีวิตกันไปหมดแล้ว บางก็ปั่นไม่ไหว เหลือกันอยู่แค่ 3 คัน คิดว่าเหมือนได้ออกกำลังกายไปด้วยไม่คอยได้เจ็บป่วยอะไร เรามาบริการเพื่ออนุรักษ์อยุธยาไว้ ให้นักท่องเที่ยวที่เขาไปไม่ถึง เราสามารถพาเขาไปได้ ตามวัดตามอะไร ให้เวลาแทบไม่จำกัดให้ถ่ายให้สบายใจ ไปได้ทุกวัน ส่วนใหญ่ก็ชอบใจ


ภูมิใจที่ยังคงมีอาชีพ สามล้อถีบ เคยมีคนมาขอซื้อราคา 15,000 บาท ผมยังไม่ขายเลย จนกว่าผมจะตาย เพราะเขาเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กอยู่ด้วยกันมา ถ้าขับไม่ไหวก็จะจอดไว้โชว์ ไว้ดู บอกลูกบอกหลานไว้ แต่ถ้าผมตายก็แล้วแต่พวกเขา แต่ถ้าเรายังอยู่ก็ไม่ขาย ภูมิใจ อยากเชิญชวนให้มาอุดหนุนสามล้อถีบ พอให้มีกิน มีใช้ วันละเล็กวันละน้อยเราก็ภูมิใจ ได้วัน 100 – 200 เราก็ภูมิใจ ไม่ใช่กลับบ้านแล้วไม่มีอะไร เพราะบ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้ออยู่เหมือนกัน ดีที่รถเราไม่ได้เช่า ถ้าเสียรถไปเราจะไปหาที่ไหน
ตอนนี้มีทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ที่เข้ามาส่งเสริมดูแล โดย นายก สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา รวมถึงรองนายก เข้ามาช่วยดูแล ทำเสื้อให้ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ว่ามีสามล้อถีบให้บริการ ตรงไหน เขามาช่วยเหลือ ส่งคนมาดูแล เราต้องขอขอบคุณ
ปั่นมาตั้งแต่อายุ 12 – 13 ปี สมัยนั่นมีแต่ป่า ผมยังนั่งบนอานเบาะไม่ได้ต้องนั่งบนคานเหล็กตัวถัง เจ็บตูดไปหมด สมัยนั้นยังต้องเช่าเลย แต่เขาเห็นเป็นเด็กเลยไม่เก็บค่าเช่า จนโตมาก็นั่งบนเบาะได้ สมัยก่อนคนนิยมนั่งสามล้อถีบมากๆเพราะแต่ก่อนมีแต่ตุ๊กๆแฮน และยังมีน้อย แต่ก่อนจะมีแต่สามล้อถีบ ตามตลาด ตามสถานที่ต่างๆ สมัยก่อนสามล้อถีบ มีเป็นร้อยคัน เพราะมีหลายอู่ ต่ออู่ก็ 20 – 30 คัน แต่มาตอนนี้เลือนหายไปหมดแล้ว
ถ้าใครจะมาใช้บริการก็สามารถมาหาได้ที่ ลานจอดรถพระเจ้าอู่ทอง ซึ่งอยู่ด้านหน้าวิหารพระมงคลบพิตร ตั้งแต่ 08.00 – 17.00 น. หรือบางวันถึง 18.00 น. ราคากันเอง 5 – 6 วัด 300 บาท ถ้าเที่ยวเดียว 40 บาท นั่ง 2 คน หรือตามระยะทาง หรือโทรมาก่อน ที่ 096 – 447 – 8413
ด้าน อาจารย์ บุญเชิด ศิริยศ ชาวอยุธยา ที่มาใช้บริการเป็นประจำ เปิดเผยว่า รู้สึกน่าเสียดาย ที่ปัจจุบันนี้ รถสามล้อถีบ โบราณเหลือเพียงแค่ 3 คัน สุดท้าย ในฐานะคนอยุธยาเอง ผมก็มาใช้บริการอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็ชักชวนเพื่อนๆที่กรุงเทพหรือต่างจังหวัด มานั่งสามล้อถีบ เที่ยวชมโบราณสถาน เป็นประจำเพื่ออุดหนุนและส่งเสริมให้ยังอยู่คู่กับชาวอยุธยาเรา ต่อไป แต่น่าเสียดาย คงจะหมดแค่รุ่นนี้แล้ว เพราะอายุลุงทุกท่านมากแล้วกันทุกคน แต่ยังมีแรงปั่น เพราะเคยถาม จะบอกเสมอว่าใจยังสู่เพื่อครอบครัว


ซึ่งตอนนี้ทราบว่า ทาง ว่าที่ร้อยตรี ดร.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้ลงมาช่วยเหลือดูแล สนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวและมาดูแลลุงทำเสื้อทีม ทำโปสเตอร์ ประชาสัมพันธ์ ส่วนราคาก็ถูกมาก รอบเมือง 6 วัด เพียง 300 บาท ถ้าเที่ยวเดียว ก็แค่ 40 บาท ถือว่าถูกมาก และเป็นการบริการที่ย้อนอดีตไปเมื่อ 30 – 40 ปี ที่แล้ว อยากให้คนที่มาเที่ยวอยุธยาได้มาสัมผัสกัน

อ่านแล้ว42 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.