การไฟฟ้าร่วมกับตำรวจอยุธยา บุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน แอบลักไฟหลวงใช้ 1 เดือนสร้างควาเสียหายเกือบ 3 แสน

แบ่งปันข่าวนี้ :

การไฟฟ้าร่วมกับตำรวจอยุธยา บุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน แอบลักไฟหลวงใช้ 1 เดือนสร้างควาเสียหายเกือบ 3 แสน


เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ สถานีตำรวจภูธรอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.นฤนาถ พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นาย วิสูตร จันทร์นิล ผู้จัดการการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค สาขาอุทัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวหลังบุกตรวจสอบ อาคารพานิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 208 หมู่ที่ 4 ตำบลอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมถนนสาย อุทัย – ภาชี
ตรวจสอบ พบว่า ด้านหน้ามีการทำฝ้า ปิดบังสายไฟหลักเข้าตัวอาคาร จึงทำการรื้อพบว่ามีการเชื่อมสายไฟเข้าไปในตัวอาคารโดยไม่ผ่านมิเตอร์ ล็อคประตูเหล็กม้วนด้านล่าง จึงทำการตัดเข้าไปตรวจสอบ พบที่ชั้นล่างมีการเจาะพื้นร้อยสายไฟทะลุพื้นขึ้นไปยังชั้น 3 จึง ขึ้นไปตรวจสอบด้านบน มีการทำฝ้าเป็นกล่อง ด้านใน พบอุปกรณ์ เครื่องขุดบิทคอยน์ ได้จำนวน 31 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พัดลมขนาดใหญ่ 2 ตัว พัดลมตั้งพื้นขนาดใหญ่ 1 เครื่อง ทำงานอยู่โดยเป่าลมออกทางหน้าต่าง และอุปกรณ์สายไฟ จึงได้ทำการตรวจยึดทั้งหมดมาตรวจสอบ


นาย วิสูตร จันทร์นิล ผู้จัดการการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค สาขาอุทัย เปิดเผยว่า ได้มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าว่ามีการใช้งานที่ผิดปกติหรือไม่ เราได้มาตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าวประกอบกับมีประชาชนแจ้งว่า อาคารพานิชย์ดังกล่าวมีเสียงดังผิดปกติ ในตอนกลางคืน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีการใช้ไฟ แต่ไม่ได้ผ่านมิเตอร์ ทำให้การไฟฟ้าได้รับความเสียหาย รวมถึงผู้ใช้ไฟที่อยู่ในพื้นที่ เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เช่นเกิดไฟไหม้ กับตัวอาคารได้ อยากฝากประชาชนถ้าพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งไปได้ที่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาในพื้นที่ หรือ แจ้งไปที่ 1129
พล.ต.ต.นฤนาถ พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เป็นการทำการบูรณาการร่วมกันทั้งการไฟฟ้า ตำรวจ กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อยากฝากบอกพี่น้องประชาชนอย่างปล่อยผ่าน ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา เพื่อป้องกันอาชญากรรมจะไม่เกิดถ้าเราช่วยกันดูแล
ซึ่งการตรวจยึดในครั้งนี้พบว่า มีการมาทำสัญญาเช่า 1 เดือน สร้างความเสียหายกับการไฟฟ้า ประมาณ 280,000 บาท โดยเจ้าของให้เช่ามีผู้มาเช่า ว่าจะเช่าทำกิจการสักอย่างหนึ่ง ก็เลยให้เช่า โดยมีบัตรประชาชนมา 1 ใบ จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า บัตรประชาชนของผู้เช่ารายนี้เป็นบัตรประชาชนไม่ตรงกับข้อมูลจริง หรือบัตรปลอมขึ้นมา เอารูปหน้ามาแปะใส่ไว้ และจาการสืบสวนพบว่ามีการเชื่อมโยงกับ บุคคลที่เคยถูกจับมาแล้วในเขต พื้นที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา อย่างไรก็จะทำการสืบสวนขยายผลอย่างละเอียดอีกครั้ง


ฝากถึงประชาชนที่มีอาคาร มีห้องพักที่ว่างเปล่า ถ้าจะมีคนมาขอเช่าขอให้ตรวจสอบบัตรประชาชนให้มีความระเอียดกับการให้เช่าเพราะอาจจะเกิดช่องว่าให้มิจฉาชีพเข้ามาก่อเหตุลักษณะแบบนี้ในพื้นที่ของท่านได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ที่ บริเวณอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้นตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพ เลขที่ 117 / 9 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การไฟฟ้าสาขาอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าสาขาอยุธยา เข้าบุกตรวจสอบและตรวจยึดของกลาง เครื่องขุดบิทคอยน์ ได้จำนวน 31 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พัดลมขนาดใหญ่ 1 ตัวและอุปกรณ์สายไฟ ลักษณะการกระทำคล้ายกัน

อ่านแล้ว256 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.