ป.ป.ช.สุราษฎร์ธานี เอาจริงหน่วยงานรัฐเกียร์ว่าง ปล่อยบุกรุกทุ่งปากขอ 7,000 ไร่

ป.ป.ช.สุราษฎร์ธานี เอาจริงหน่วยงานรัฐเกียร์ว่าง ปล่อยบุกรุกทุ่งปากขอ 7,000 ไร่

ป.ป.ช. สุราษฎร์ ประชุมกำหนดมาตรการป้องกันการบุกรุกทุ่งปากขอ 7,000 ไร่

ป.ป.ช.สุราษฎร์ธานี ร่วมมือ กอ.รมน. ปกป้องที่สาธารณะทุ่งปากขอ 7,000 ไร่

ป.ป.ช. สุราษฎร์ บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปกป้องที่สาธารณะทุ่งปากขอ

กอ.รมน.ภาค 4 ร่วมเฝ้าระวังการบุกรุกทุ่งปากขอ 7,000 ไร่

วันที่ 12 ธ.ค. 67 นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 8 เป็นประธานในการประชุมเพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะทุ่งปากขอ ต.ทรัพย์ทวี อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายเนติพล ชุมยวง ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการฯ และความสำคัญของการคุ้มครองป้องกันทรัพยากรธรรมชาติตามนโยบายของคณะกรรมการ ป.ป.ช โดยมีผู้แทนจาก กอ.รมน.ภาค 4 เข้าร่วมสังเกตุการณ์ และมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี, เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาบ้านนาสาร, ผู้แทนปกครองจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ผู้แทนสถานีตำรวจภูธรบ้านนาเดิม, ผู้แทนโครงการชลประธานสุราษฎร์ธานี, ปลัดอำเภอบ้านนาเดิม, ผู้แทนสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สฎ) , ผู้บริหาร อบต.ทรัพย์ทวี, ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 4 กำนันตำบลทรัพย์ทวี และผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ จากการประชุมร่วมกันปรากฎข้อเท็จจริงว่าที่สาธารณะทุ่งปากขอ ได้มีประเด็นการร้องเรียนการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เลขที่ 30977 หมู่ที่ 1 ต.ทรัพย์ทวี (ท่าเรือ) เนื้อที่ 4143 ไร่ 90 ตารางวา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2529 ทับพื้นที่ทำกินเดิมของชุมชนไทดำ

ต่อหลายหน่วยงาน อาทิ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฯลฯ ปัจจุบันบางหน่วยงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และได้มีคำวินิจฉัยและคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โดยคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาดังกล่าว มีผลสอดคล้องไปในทางเดียวกัน กล่าวคือ “ตราบใดที่ น.ส.ล. เลขที่ 30977 ยังมิได้ถูกเพิกถอน ไม่ว่าจะเป็นการเพิกถอนโดยผู้มีอำนาจให้เพิกถอน หรือศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอน น.ส.ล.ดังกล่าว ยังคงมีผลสมบูรณ์ใช้บังคับได้ และจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า เป็นของแท้จริงและถูกต้อง” ดังนั้นอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงมีหน้าที่และอำนาจในการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตามนัยมาตรา 122 แห่ง พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.2553

ที่ประชุมจึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินการของหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ทุ่งปากขอ ดังต่อไปนี้

1. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการคุ้มครองป้องกันการบุกรุกพื้นที่ สาธารณะทุ่งปากขอ โดยกำหนดระยะเวลาและวิธีการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
2. หน่วยงานกำกับดูแล สนับสนุนการดำเนินการให้กับหน่วยงานในพื้นที่ โดยมีแผนการสนับสนุนที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม
3. สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมบูรณาการลงพื้นที่ ติดตามการแก้ปัญหาในพื้นที่
4. สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะกำหนดระยะเวลาเพื่อประชุมติดตามการดำเนินการตามแผน และรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวต่อคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
5. สำนักงาน ป.ป.ช. จะกำหนดจัดประชุมเพื่อสนับสนุนและผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาระยะยาว เช่น การจัดทำแผนเพื่อของบประมาณในการก่อสร้างถนนรอบบริเวณพื้นที่สาธารณะดังกล่าว, การจัดทำโครงการแก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะติดตามการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะทุ่งปากขออย่างต่อเนื่อง และจะพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หากมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเอื้อประโยชน์ให้เกิดการบุกรุกสาธารณะทุ่งปากขอ หรือพื้นที่อื่น ๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป หากประชาชนพบเห็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี หมายเลขโทรศัพท์ 077-282172 หรือ facebook : สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือ แจ้งเบาะแสร้องเรียนเป็นหนังสือ ส่งมาที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 222 หมู่ 1 ถนนกาญจนวิถี ตำบลบางกุ้ง อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี

อ่านแล้ว246 times!