ตร.วังน้อย บุกรวบแก๊ง ฟันน้ำนม อาละวาด ขโมยรถในพื้นที่ได้พร้อมของกลาง พฤติกรรมเช่าที่พักในจังหวัดปทุมแล้วมาขโมยในอยุธยาเพื่อให้ยากต่อการติดตาม

แบ่งปันข่าวนี้ :

ตร.วังน้อย บุกรวบแก๊ง ฟันน้ำนม อาละวาด ขโมยรถในพื้นที่ได้พร้อมของกลาง พฤติกรรมเช่าที่พักในจังหวัดปทุมแล้วมาขโมยในอยุธยาเพื่อให้ยากต่อการติดตาม เงินที่ได้ใช่ปั่นสล็อตและปาตี้หมู่เพื่อน ( เบลอหน้าผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเยาวชน )


เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ที่ สถานีตำรวจภูธรวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย พ.ต.ท.ปทัตธนน สายเนตร รอง ผกก.สส.สภ.วังน้อย พร้อมชุดสืบสวน สภ.วังน้อย นำตัวหนึ่งในผู้ต้องหา เข้ามาสอบปากคำ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ วังน้อย สามารถจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ก่อเหตุในพื้นที่ เขตวังน้อยและเขตพื้นที่ปริมณฑล พร้อมนำของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ ของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุ 2 คันและรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายอีก 2 คัน เสื้อผ้าและหมวกกันน็อคขณะก่อเหตุ


พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.วังน้อย ได้จับแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ก่อเหตุอาละวาดลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ได้ผู้ต้องหา 7 คน ซึ่งมีเยาวชนร่วมอยู่ด้วย พร้อมของกลางหลายรายการ
สืบเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังน้อย ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ จำนวนหลายคันในพื้นที่ ม.3 ต.วังจุฬา อ.วังน้อยฯ ชุดสืบสวน สภ.วังน้อย ได้สืบสวนทราบว่ากลุ่มแก๊งของคนร้ายได้เช่ารีสอร์ท แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี


ต่อมา วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 1 ราย คือ นายจิรศักดิ์ หรือมอส คำศรี อายุ 20 ปี ชาว ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมรับของโจร ” ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ที่ รีสอร์ท แห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
พร้อมพรรคพวกร่วมขบวนการอีก 6 คน ได้แก่ นายทวีมา หรือหนุ่ย มั่งคั่งสง่า อายุ 19 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ,นาย เอ (นามสมมุติ) ( เยาวชน ) อายุ 15 ปี ,นาย บี (นามสมมุติ) เยาวชน อายุ 17 ปี ,นายพีรภัทร หรือดรีม มั่งดี อายุ 19 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ,นาย ซี (นามสมมุติ)(เยาวชน)อายุ 16 ปี และ นายปฏิภาณ หรือเจ อุปริมวงศกร อายุ 20 ปี ชาว จ.ปทุมธานี รวมเป็น 7 ซึ่งมีเยาวชน ร่วมด้วย 3 ราย
โดยยึด ของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 สีดำ ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 สีแดง-ดำ ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน 3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 110 สีเทา ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน 4.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น N-MAX สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 8กพ 5413 กทม. (เป็นรถที่ใช้ในการกระทำความผิด) รวมถึงเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ในความผิดฐาน “ ร่วมลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือโดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ ”
ซึ่งพฤติกรรมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ดังกล่าว แบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 3 คน จะเช่าห้องพักรายวันอยู่ในพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี และจะเข้าก่อเหตุตามหอพักต่างๆในพื้นที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียง เพื่อยากต่อการติดตามตัว โดยจะแบ่งกันทำงานจะมีคนดูต้นทาง โดยจะมองดูก่อนว่าล็อคดิสหรือไม่ ถ้าไม่ล็อคก็จะมีคนเดินมาถีบคอรถให้ตัวล็อคคอหัก และอีกคนก็เข็นรถออกจากจุดก่อเหตุ มาจอดด้านนอกก่อนสต๊าดรถขับออกไป รถที่ได้ไปก็จะไปจอดในตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่คลอง 7 อำเภอลำลูกา จังหวัดปทุมธานี โดยใช้แม่กุญแจล็อคดิสล้อ ให้ยากต่อการถูกขโมยต่อเพื่อรอลูกค้าที่จะมาซื้อ โดยราคาขายจะเลือกขโมยรถปีใหม่ๆ ขายราคา 10,000 – 20,000 บาท ซึ่งเงินที่ได้ก็จะนำไปปั่นสล็อตการพนัน และปาตี้หมู่เพื่อน รวมถึงใช้จ่ายเที่ยวเตร่และค่าที่พัก


ทั้งนี้จะนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อยเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายพร้อมจะดำเนินการตามต่อถึงขบวนการว่าใครซื้อ รถที่ขโมยมาขายไปไหน หรือถ้าใครคิดว่าเป็นรถของตัวเองเคยถูกแก๊งนี้ขโมยไปสามารถมาติดตามได้ที่ สถานีตำรวจภูธรวังน้อย
ทางด้าน นาย เถิรน อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้เสียหายและเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ Honda Wave สีดำ แดง บอกว่า ตนเองดีใจมากที่ทางเจ้าหน้าตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายและนำรถจักรยานยนต์ของตนเองได้คืนมาเนื่องจากตนเองเพิ่งซื้อมาได้เพียงแค่ 2 เดือน วิ่งมาแค่ 1,432 กิโลเมตร ยังไม่ได้ป้ายทะเบียน แต่ก็ถูกคนร้ายมาขโมยไปในช่วงกลางคืนบริเวณหอพัก หลังจากรถจักรยานยนต์หายก็เดือดร้อนไม่มีรถจักรยานยนต์ขี่ไปทำงาน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวังน้อย และดีใจที่ได้รถจักรยานคืนมาในครั้งนี้

อ่านแล้ว318 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.