นฤมล รมว.เกษตรฯพร้อมร.อ.ธรรมนัส มาเป็นพี่เลี้ยงลงพื้นที่อยุธยา ให้ความั่นใจไม่เท่าปี 54 พร้อมบูรณาการทุกหน่วยช่วยเหลืออย่างเต็มที่

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 กันยายน 2567 ที่ ประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมคณะลงพื้นที่โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การตอนรับพร้อมบรรยายสรุปสถาการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา





ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่มาครั้งเพื่อติดตามรับฟังสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยปัจจุบัน หลังเขื่อนเจ้าพระยา ยังคงมีการระบายอยู่ที่ 1,498 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ประมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม ได้รับผลกระทบ จำนวน 7 อำเภอ 71 ตำบล 343 หมู่บ้าน 10,376 ครัวเรือน อำเภอเสนา รวม 7 ตำบล 49 หมู่บ้าน 4 ชุมชน 2,736 ครัวเรือน อำเภอบางบาล รวม 13 ตำบล 64 หมู่บ้าน 1,624 ครัวเรือน อำเภอผักไห่ รวม 12 ตำบล 70 หมู่บ้าน 2,045 ครัวเรือน อำเภอบางไทร รวม 21 ตำบล 86 หมู่บ้าน 2,490 ครัวเรือน อำเภอพระนครศรีอยุธยา รวม 8 ตำบล 30 หมู่บ้าน 5 ชุมชน 538 ครัวเรือน อำเภอบางปะอิน รวม 9 ตำบล 42 หมู่บ้าน 935 ครัวเรือน อำเภอบางปะหัน รวม 1 ตำบล 2 หมู่บ้าน 8 ครัวเรือน สถานที่ราชการ 3 แห่ง วัด 6 แห่ง มัสยิด 1 แห่ง โรงเรียน 5 แห่ง เส้นทางคมนาคมถนนภายในหมู่บ้าน 2 สาย ทั้งนี้จะมีการระบายน้ำลงสู่ทุ่งๆต่างๆที่มีการวางแผนระบายน้ำลงสู่ทุ่งเพื่อเป็นทุ่งรับน้ำ หลัง 15 กันยายนนี้
ทั้งนั้ยังได้ร่วมรับฟังปัญหาผลกระทบจากชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลบางชะนี อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มาร่วมให้การตอนรับและเปิดเผยถึงปัญหาที่ได้รับ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่นอกคันกั้นน้ำซึ่งได้รับผลกระทบเกือบทุกปี แม้พื้นบ้านเรามีการยกสูงขึ้นแต่น้ำก็จะสูงขึ้นทุกๆปีเกือบถึงพื้นบ้าน บ้างคนมีทุนก็ยกสูงขึ้น แต่ก็ก็ตามขึ้นมาทุกๆปี อยากให้มีแนวทางหรือการแก้ไขอย่างไร
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังจังหวัดชัยนาท ที่เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่รับน้ำ และ ระบายน้ำลงมาในพื้นที่อาจจะได้รับผลกระทบอย่างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตอนนี้ท่านผู้ว่าราชงานว่าตอนนี้ได้รับผลกระทบแล้ว 7 อำเภอ แต่อย่างไรก็ตามตัวเลขการระบายน้ำลงมายังอยู่ในตัวเลขที่สามารถบริหารจัดการได้ และเรากำลังเร่งโครงการ คลองระบายน้ำ บางบาล – บางไทร ซึ่งตามกำหนดจะต้องเสร็จสิ้นปี 70 วันนี้ก็มาติดตามความคืบหน้าของโครงการ จากที่ท่านธรรมนัส ได้ริเริ่มไว้ เราก็หวังว่าจะเร่งการก่อสร้างสำเร็จเร็วขึ้น นอกจากเรื่องคลองระบายน้ำ ก็มีในส่วนการระบายน้ำออกภาคตะวันออก อีกโครงการหนึ่งเพิ่มเติม ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้เพิ่มขึ้น







เราจะผลักดันโครงการต่อเนื่อง ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านธรรมนัส ให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เพราะประชาชนก็เป็นห่วงทางภาคเหนือมีน้ำท่วม ในหลายจังหวัด คำถามที่เกิดขึ้นจะลงมาท่วมในพื้นที่ภาคกลาง และ กรุงเทพมหานครด้วยไหม สภาพจะเหมือนปี 2554 ไหม ทางรัฐบาลด้วยความเป็นห่วงของท่านนายกรัฐมนตรี ก็อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พวกเราลงมาติดตามสถานการน้ำและดูความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติ และของโครงการต่างๆที่เตรียมการมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน
ตอนนี้เราให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนชน ในระดับที่มั่นใจได้ว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่เป็นเหมือนตอนปี 54 แน่ และภายใน 1 – 2 ปีนี้จะดีขึ้น กว่าที่เป็นอยู่ ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบไปบางแล้ว ทางจังหวัดโดยท่านผู้ว่าจะเป็นเจ้าภาพหลักในการที่จะประสานความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เอง ก็มี กรมการข้าว ที่จะเตรียมเรื่องเมล็ดพันธุ์ ให้กับพี่น้องเกษตรกรได้เพาะปลูกหลังจากระบายน้ำออกแล้ว ทาง กรมปศุสัตว์ ก็มีการเตรียมในเรื่องของอาหารสัตว์ที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรด้วย และ กรมพัฒนาที่ดิน ก็จะเข้ามาปรับปรุงสภาพพื้นที่ด้วย ส่วน พม.ก็จะเข้ามาช่วยในส่วนของดีดตัวบ้านบางพื้นที่ ที่จำเป็นต้องรับมวลน้ำมา
อ่านแล้ว321 times!