ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี บุกจับกุม บุหรี่ไฟฟ้า และ กัญชา

แบ่งปันข่าวนี้ :

ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี บุกจับกุม บุหรี่ไฟฟ้า และ กัญชา ลักลอบจำหน่ายใกล้สถานศึกษา อึ้ง ! ยอดขายเดือนละกว่า 1 ล้านบาท

ค่ำวันนี้ (21 เม.ย.67) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้สั่งการให้ ว่าที่ร้อยโท สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำโดยนายปัญญาศักดิ์ กั่งเซ่ง ป้องกันจังหวัดสุราษฎร์ธานี มว.อ. ฉัตรชัย รักรณรงค์ ผบ.ร้อย อส.จ.สฎ.1 สนธิกำลังกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษฯอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ภายใต้การอำนวยการของนายสิทธิชัย ไทยเจริญ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี โดยมี นายชานิศ ทองสวัสดิ์ และ สิบตำรวจเอกสุริยา ชูรินทร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง รวม 17 นาย บุกเข้าจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 143/13 หมู่ 7 ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ผู้ต้องหา 1 ราย ทราบชื่อคือ นายฐัชธน ลิ่วสกุล อายุ 31 ปี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า หลายชนิด ทั้งอุปกรณ์การสูบและน้ำยา รวมมูลค่านับแสนบาท และ ภายในร้านยังพบกัญชา ทั้งแบบที่บรรจุมวนเพื่อจำหน่ายปลีก 46 มวน และ กัญชาแห้งน้ำหนัก 500 กรัม

ว่าที่ร้อยโท สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า การสืบเนื่องในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับข่าวจากสายลับว่ามีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์การสูบให้กับเยาวชนในพื้นที่ใกล้สถาบันระดับอุดมศึกษาถึง 2 แห่ง ทำให้เยาวชนเข้าถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่อันตรายต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงดำเนินการติดต่อล่อซื้อนำไปสู่การจับกุม ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดและรัฐบาล ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมร้านที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจับกุมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จากการสอบสวนผู้ขายเบื้องต้น สารภาพว่า รับจ้างมาขายได้ประมาณ 2 เดือน มียอดจำหน่ายประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อวัน หรือประมาณ 1 ล้านบาทต่อเดือน โดยแต่ละวันจะส่งยอดเงินให้กับเจ้าของร้าน ส่วนกัญชาในที่เกิดเหตุ มีคนเอามาฝากให้ขายให้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้กระทำผิด ไปสอบสวนขยายผลและนำของกลางไปทำบันทึกจับกุมที่คกองร้อยอส.สุราษฎร์ธานี ก่อนส่ง สภ.ขุนทะเล เพื่อดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดกัญชาในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ และ (1) ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิด


ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่4) พ.ศ.2562
(2) นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากูไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557
(3) ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรจะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตามมาตรา 246วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.ศลกากร พ.ศ. 2560

อ่านแล้ว238 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.