สาวเพชรบูรณ์วัย 22 ปี พลัดถิ่นบ้านเกิดหางานทำเมืองกรุงเก่า สุดช้ำใจ รถจยย.คันเดียวที่มีออกมาได้เพียง 11 เดือน ถูกขโมย พบเป็น 2 โจรผัวเมียขโมยรถอาราวาทหนักในหลายพื้นที่ตอนนี้

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ที่ จุดพักรถแห่งหนึ่ง ริมถนนพหลโยธิน ขาออก ในพื้นที่ ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นางสาว วสุนันท์ หึกขุนทด อายุ 22 ปี พนักงานขายเสื้อผ้า ชาว ตำบลบึงกระจับ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เล่าว่าตนเองมาทำงานอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 3 เดือน โดยมาพักอาศัยอยู่หอพักในพื้นที่อำเภอวังน้อย และขับจักรยานยนต์มาทำงานทุกวัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาตนเองตนเองขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีนำเงิน เบาะแดง หมายเลขทะเบียน 1 กร 8937 พระนครศรีอยุธยา มาทำงานในตอนเช้า จอดไว้ที่บริเวณจอดรถจักรยานยนต์ เหมือนทุกครั้ง พอเลิกงานประมาณ 6 โมงเย็น และก็เดินหาทั่วบริเวณแต่ก็ไม่เจอ ตอนแรกยังคิดว่าใจจูงขยับไปผิดหรือเปล่า ซึ่งกล้องวงจรปิดก็ไม่มี



พอถามคนแถวๆนั้น มีคนเห็น ผู้หญิงกับผ็ชายมานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นรถของเรา เขามาเห็นอีกที ผู้ชายถีบรถจักรยานยนต์ของเราออกไป โดยมีผู้หญิงนั่งคล่อมรถจักรยานยนต์เราออกไป บนถนนพหลยธิน มุ่งหน้าไปทางจังหวัดสระบุรี ผู้ชายรูปร่างสูง ผู้หญิงผมบ๊อบ ไม่ใส่หมวก แต่ผู้ชายสวมหมวกกันน็อกสีดำ ซึ่งคล้ายกับที่เคยเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ว่ามีโจรหญิงชายออกอาราทขโมยรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีอีกทั้งเป็นยานพาหนะใช้มาทำงานไปไหนมาไหน พึ่งออกมาได้ 11 เดือน ยังผ่อนไม่หมดเลย ตอนนี้ลำบากมากที่จะมาทำงาน ต้องนั่งวินจากหอพักมาต่อรถตู้เพื่อจะมาทำงาน และยิ่งเวลากลับเลิกงานที่นี่ก็ไม่มีวินต้องรอรถตอนเย็นก็มืดค่ำกลับลำบาก ซึ่งตอนนี้ความรู้สึกไม่รู้ว่าจะไปพึ่งพาใครเพราะเราไม่ใช่คนที่นี่ บ้านเราอยู่เพชรบูรณ์ พอไม่มีรถใช้ชีวิตก็ยาก ความเป็นอยู่ยากและลำบากมาก อยากให้คนร้ายที่เห็นเอามาคืน เพราะตอนนี้ลำบากมา จิตตกไปหมดเลย ไม่อยากสู้ต่อ ไม่มีกำลังใจแล้วตอนนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามคนร้ายหรือรถจักรยานยนต์คืนให้ได้เร็วๆ ซึ่งตนเองไปแจ้งความไว้แล้วที่ สถานีตำรวจภูธรวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือใครพบเห็นให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย



ทั้งนี้ตนเองพยายามทุกทางในโซเชียลเนื่องจากตนเองรถจักรยานยนต์หาย ไม่มีกล้องวงจรปิด จนไปพบว่าคนร้ายได้ไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันในพื้นที่จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมคนร้ายได้ โดยผู้หญิงเป็นคนนั่งคล่อมรถจักรยานยนต์คันที่ขโมยไปจะมีผู้ชายขับรถจักรยานยนต์ใช้เท้าถีบยัน ตนเองจึงนำภาพกล้องมาให้พี่คนที่เห็นซึ่งก็ยืนยันว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน
อ่านแล้ว489 times!

