พ่อเมืองกรุงเก่า คนใหม่มาถึงก็ลุยงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมป้องกันเกาะเมือง หลังรับตำแหน่งผู้ว่าฯ วันแรก
วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ วัดศาลาปูนวรวิหาร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมลงพื้นที่ติดตามการเตรียมรับมือน้ำท่วมเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา โดยมี นายประทีป การมิตรีและนายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าที่ร้อยตรีสมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา นายชณทัต ปัทะมะภูวดล ผู้ชำนาญการประจำตัวสมาชิกวุฒิสภา พร้อมคณะ ให้การต้อนรับและนำตรวจสถานการณ์น้ำรอบบริเวณวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยได้รับความเมตตาจาก พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร ร่วมนำตรวจพื้นที่ในครั้งนี้




สำหรับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุน้ำท่วมโดยใช้พื้นที่ วัดศาลาปูนวรวิหาร เป็นศูนย์บัญชาการ รวมถึงเป็นศูนย์รวมการทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงาน จากนั้นเดินทางลงพื้นที่ ชุมชนวัดกุฎีทอง ตำบลท่าท่าวาสุกรี หลังจากช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเข้าคลองเมืองพระนครศรีอยุธยา ทำให้ปริมาณน้ำมีระดับที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 20 – 40 ซ.ม. โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมบริเวณ ชุมชนวัดกุฎีทอง ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้เร่งจัดนำเจ้าหน้าที่คนงานกองช่าง เร่งดำเนินการ ทหาร จิตอาสา เร่งเสริมคันดินด้วยการวางบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่ป้องกันน้ำที่เอ่อล้นเพิ่มมากขึ้นโดยดำเนินการมาตลอดทั้งคืน เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาได้เร่งการระบายน้ำทำให้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและประชาชนในชุมชนวัดกุฎีทองเริ่มได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมเป็นจำนวนหลายหลังคาเรือน




นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในวันนี้ พบว่าทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา มีการระดมกำลังในการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันเป็นอย่างดี พร้อมฟังบรรยายการสรุป พื้นที่ทางจังหวัดเองจะมีการประชุมเตรียมแผนในการป้องกันน้ำในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และขอฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น สูงจากแนวตลิ่งพื้นของวัดไชยวัฒนารามด้านนอกประมาณ 1.60 ซม. เหลืออีกประมาณ 80 ซม. จะเสมอกับแนวบังเกอร์ระบบน็อคดาวน์ เจ้าหนี้เร่งขนย้ายแผ่นเหล็ก เพื่อติดตั้งสริมแนวบังเกอร์น็อคดาวน์ให้สูงขึ้นอีก 60 ซม. เตรียมรับปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก


โดยแนวบังเกอร์ระบบน็อคดาวน์ยังมีความมั่นคงแข็งแรง ระบบเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติยังทำงานได้ตามปกติพบว่ามีน้ำซึมบริเวณกำแพงด้านข้างเข้ามาเล็กน้อยไหลลงในบ่อพักเครื่องสูบน้ำระบบอัตโนมัติจะทำงานสูบน้ำออกทันที
อ่านแล้ว453 times!