สถานการณ์น้ำท่วมอยุธยาตำบลหัวเวียงอำเภอเสนาน้ำท่วมสูง โรงเรียนวัดยังอ่วม ด้านคณะทำงานอำนวยการบริหารการจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง

แบ่งปันข่าวนี้ :

สถานการณ์น้ำท่วมอยุธยาตำบลหัวเวียงอำเภอเสนาน้ำท่วมสูง โรงเรียนวัดยังอ่วม ด้านคณะทำงานอำนวยการบริหารการจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง เผยเตรียมผันน้ำเข้าทุ่งผักไห่ 30 ก.ย.นี้

                สถานการณ์น้ำ วันอังคารที่ 20 กันยายน 2565 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่าน C13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,989 ลบ.ม/วิ เมื่อวาน 1,989 ลบ.ม/วิ ปริมาณน้ำไหลผ่านคงที่ ระดับน้ำที่ C35 บ้านป้อม พระนครศรีอยุธยา ระดับตลิ่ง 4.35 ม. ระดับน้ำ 4.51 ม. เมื่อวาน 4.49 ม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ขณะที่ เขื่อนพระรามหก อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ระบาย 514 ลบ.ม/วิ ลดลงจากเมื่อวาน ที่ระบายอยู่ที่ 532 ลบ.ม/วิ

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งติดกับแม่น้ำน้อย พบว่าขณะนี้น้ำท่วมในพื้นที่ มานานเกือบ 2 เดือน บ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียน ยังคงถูกน้ำท่วมสูงในหลายๆจุด บางจุดท่วมสูง 1 – 2 เมตร ขณะเดียวกันพบว่าประชาชนต้องนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์มาจอดบนสะพาน ต้องใช้เรือสัญจรเป็นยานพาหนะเข้าออก

ขณะที่ คณะทำงานอำนวยการบริหารการจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง โดยมี นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 2 พร้อมด้วย โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาผักไห่ สำนักงานชลประทานที่ 11 สำนักงานชลประทานที่ 12 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการระบายน้ำเข้าสู่ทุ่งๆต่างๆในพื้นนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 2 เผยว่า การผันน้ำเข้าทุ่งในแต่ละทุ่ง อาจจะเป็นทุ่งรับน้ำที่เราจะใช้เราจะพิจารณาจากปริมาณน้ำที่ไหลสูงสุด ของแม่น้ำเจ้าพระยาว่าจะเกิดขึ้นช่วงไหน ซึ่งเราจะคาดการณ์จากภูมิอากาศและสภาพฝน สภาพพายุ ต่างๆ ซึ่งวันนี้ ได้มีการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่จะสูงสุด น่าจะเกิดในช่วงไม่น่าจะเกิน 15 ตุลาคม การผันน้ำเข้าทุ่งจึงควรที่จะเตรียมไว้รองรับในจุดนั้น ซึ่งเราคาดว่าในบางทุ่งเราจะรับเฉพาะทุ่งที่มีเงือนไขได้คุยกับภาคประชาชนเรียบร้อยแล้วหรือทางจังหวัด เช่นทุ่งผักไห่ ซึ่งจุดนี้ได้เก็บเกี่ยเรียบร้อยแล้ว 100 เปอร์เซ็น ก็จะเริ่มรับน้ำก่อน ในวันที่ 30 กันยายน โดยจะรับน้ำแค่ 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้เสียศักยภาพในการรับน้ำ ในกรณีที่จะมียอดน้ำมาในช่วงตุลาคม เพราะถ้าเรารับน้ำเข้ามาก่อนเต็มทุ่ง  น้ำก็จะไปตุงอยู่ที่บางประม้า สุพรรณบุรี ซึ่งในตอนนี้แม่น้ำท่าจีนก็มีการท่วมในตอนท้ายของจังหวัดสุพรรณบุรีเพราะว่ามีน้ำที่มาจากทุ่งโพธิ์พระยา  เพราะฉะนั้นในการบริหารจัดการน้ำในแต่ละทุ่งรับน้ำเข้าทุ่งจะสอดคล้องสัมพันธุ์กับปริมาณในพื้นที่เองด้วย ปริมาณน้ำที่ต้องการตัด เพราะเช่นนั้นเราไม่สามารถที่จะตัดน้ำในทุ่งได้ในปริมาณที่ต้องการ ก็จะทำให้น้ำเหนือผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มากกว่าความจุของลำน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจจะทำให้กำแพงหรือตลิ่งที่ป้องกันไว้พังทลายได้ ซึ่งเป็นจุดที่จะต้องระบายน้ำเข้าทุ่งให้เหมาะสม  และในกรณีทุ่งบางทุ่ง ยังไม่มีเงือนไขจะรับน้ำได้ โดยเฉพาะมีการเก็บเกี่ยวยังไม่เสร็จหรือปริมาณน้ำฝนเราจะพิจารณาเป็นกรณีไป

อ่านแล้ว304 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.