ร้อยเอ็ด ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด จับกุมขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายรายใหญ่
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 พลตำรวจตรีไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการแถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายรายใหญ่ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก วันชัย วินทะสมบัติ รองผู้บังคับการตำรวจธูธรจังหวัดร้อยเอ็ด พันตำรวจเอก พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเสลภูมิ พร้อมทีมงาน ร่วมแถลงข่าว
พลตำรวจตรีไพโรจน์ มังคลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มีนโยบายปิดประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส covid-19 จนทำให้สถานการณ์คลี่คลายการแพร่ระบาดมีผู้ติดเชื้อน้อยลงต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รัฐบาลได้มีนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆให้เดินทางเข้ามาในประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจปรากฏว่าได้มีการเคลื่อนไหวของแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่พยายามจะลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการให้เฝ้าระวังเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทยของแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย หากพบเห็นให้จับกุมดำเนินคดีและขยายผลหาตัวการผู้นำพา ผู้ช่วยเหลือ หรือผู้สนับสนุน ในการลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโทยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พลตำรวจตรีไพโรจน์ มังคลาผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดทำการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายขยายผลการจับกุมนำพาต่างด้าวการนำพาต่างด้าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดจนกระทั่งวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเสลภูมิ ได้พบว่า จะมีการลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาตามแนวชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี มากับรถบัสโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ – อุบลราชธานี เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพฯ จึงได้วางแผนจับกุมคนขับรถและเมื่อเดินทางมาถึงหน้าสถานีตำรวจภูธรเสลภูมิ จึงเรียกให้หยุดและตรวจค้นพบว่ามีแรงงานสัญชาติลาวจำนวน 24 คน ซึ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
จึงได้จับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวดังกล่าว และจับกุมนายสมชาย(นามสมมุติ) คนขับและนายสมศักดิ์(นามสมมติ) คนประจำรถบัสโดยสารปรับอากาศ ซึ่งเป็นผู้นำแรงงานต่างด้าวเข้ามา พร้อมดำเนินการสอบสวนขยายผลทราบว่าผู้ติดต่อนำแรงงานสัญชาติลาวเข้ามาคือนางติ๋ม(นามสมมุติ)และในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ชตำรวจภูธรเสลภูมิ ได้ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจับกุมนางติ๋ม (นามสมมุติ)ได้ที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานีและนอกจากนั้นยังได้ดำเนินคดีกับนายสมชัย(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นนายท่าสถานีรถบัสโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพ- อุบลราชธานี ประจำขนส่งอำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานีเพิ่มอีกด้วยการลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทยครั้งนี้ แรงงานต่างด้าวจะต้องจ่ายเงินให้กับกระบวนการนำเข้าแรงงานผิดกฎหมายคนละ 8000 บาทโดยผู้ต้องหาที่เป็นกระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวทั้ง 4 คนถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์พ. ศ. 2551 และพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ. ศ. 2522 การลักลอบเข้าประเทศโดยผ่านช่องทางและวิธีที่ไม่ถูกต้องเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและยังเสี่ยงต่อการนำเชื้อโรคเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
//////
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
อ่านแล้ว574 times!
