ตร.ทางหลวงอยุธยาตาไวพบเก๋งหรูผิดสังเกตเรียกตรวจเจอลุงวัย61ขับอาชีพช่างซ่อมรถผันตัวขับรถหรูขนแรงงานต่างด้าวรายได้ดีทำเป็นอาชีพเสริม

แบ่งปันข่าวนี้ :

ตร.ทางหลวงอยุธยาตาไวพบเก๋งหรูผิดสังเกตเรียกตรวจเจอลุงวัย61ขับอาชีพช่างซ่อมรถผันตัวขับรถหรูขนแรงงานต่างด้าวรายได้ดีทำเป็นอาชีพเสริม


สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.๑ บก.สส.สตม.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน
โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
จนกระทั่ง เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 17 มีนาคม 2568 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำรวจเส้นทาง ถนนสายเอเชีย โดยพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า แคมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ศง 1308 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาลักษณะติดฟิล์มมืดทึบ ขับขี่เปลี่ยนช่องทางกระทันหันมีเหตุอันควรต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด


จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ช่วงหลัก กม.2 – 3 ถนนสายเอเซีย(ขาเข้า) ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ พบมี นายพิสิษฐ์ เกิดโพชา อายุ 61 ปี ชาว ต.ดอนแฝก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นคนขับ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์พบว่ามีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติจำนวน 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
นายพิสิษฐ์ อายุ 61 ปี คนขับ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำมาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้รับการติดต่อจาก น.ส.วิภาพร ผ่านเฟตบุ๊ก ติดต่อว่าจ้างให้ขับรถไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 3 คน ในพื้นที่ ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ ซ.บางปู 75 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยได้ตกลงค่าจ้างกัน 3,000 บาท ต่อคนต่างด้าว 1 คน โดยจะได้รับเงินเมื่อทำการส่งคนต่างด้าวถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว โดยจะโอนจ่ายค่าจ้างมาให้ซึ่งก็ไม่เคยเจอตัวแต่อย่างใด แต่ก็มาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจจับกุมได้เสียก่อน ทั้งนี้ตนเองมีอาชีพช่างซ่อมรถ แต่ด้วยปัญหายุคนี้รถราคาตกและก็ไม่คอยมีใครมาซ่อม ทำให้ต้องหารายได้เสริม ก็นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พบเดือนไหนงานดี 7 – 8 เที่ยว น้อยสุดเดือนละ 2 – 3 เที่ยว


สอบถามแรงงานผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ทราบว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำงานในประเทศไทย โดยยังไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา นายพิสิษฐ์ อายุ 60 ปี คนขับ ข้อหา “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ” ส่วนแรงงานที่มาในรถ 3 คน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.3 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อ่านแล้ว82 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.