การไฟฟ้าร่วมกับตำรวจอยุธยาบุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อนแอบลักไฟหลวงใช้ หลังมาเช่าตึกแถวอ้างเก็บอะไหล่รถซิ่ง เป็นการพบครั้งแรกในอยุธยา ความเสียหายร่วมล้าน

แบ่งปันข่าวนี้ :

การไฟฟ้าร่วมกับตำรวจอยุธยาบุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อนแอบลักไฟหลวงใช้ หลังมาเช่าตึกแถวอ้างเก็บอะไหล่รถซิ่ง เป็นการพบครั้งแรกในอยุธยา ความเสียหายร่วมล้าน


เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ที่ บริเวณอาคารพาณิชย์ สูง 3 ชั้นตั้งอยู่ริมถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพ เลขที่ 117 / 9 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นายพิสิษฐ์ เจริญนพศักดิ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาอยุธยา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าสาขาอยุธยา เข้าบุกตรวจสอบ พบว่ามีการล็อคประตูเหล็กม้วนด้านล่าง จึงทำการตัดเข้าไปตรวจสอบ พบที่ชั้นล่างมีการเจาะพื้นร้อยสายไฟทะลุพื้นขึ้นไปยังชั้น 3 จึงขึ้นไปตรวจสอบด้านบนพบอุปกรณ์ เครื่องขุดบิทคอยน์ ได้จำนวน 31 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พักลมขนาดใหญ่ 1 ตัวและอุปกรณ์สายไฟ จึงได้ทำการตรวจยึดทั้งหมด


พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่าคดีนี้คือเงินดิจิตอล เป็นการกระทำของผู้ที่รู้ในด้านนี้เป็นอย่างดี โดยจะได้รับเงินส่วนแบ่งจากเงินดิจิตอล แต่ที่พลาดและผิด คือการใช้ไฟฟ้าฟรี คือการลักทรัพย์ของการไฟฟ้า 2 เดือนที่มีการเปิดใช้ไป ค่าไฟเสียหายประมาณ 4 แสนบาทส่วนตัวเครื่องขุดบิทคอยน์ จะต้องตรวจสอบการนำเข้า ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้การไฟฟ้าตรวจสอบพบความผิดปกติของสถานที่แห่งนี้จึงไปแจ้งความร้องทุกข์ข้อหาลักทรัพย์ ถือว่าเป็นครั้งแรกในพื้นที่อยุธยา
อยากฝากถึงผู้ที่กระทำผิด คุณได้ประโยชน์ของคุณแต่ไม่ควรมาลักทรัพย์ของชาติ ซึ่งไม่ถูกต้อง ควรทำให้ถูกและสุจริต ตอนนี้เราก็จะทำการตรวจสอบให้ได้ตัวผู้กระทำผิดโดยเร็ว เพราะที่พบเป็นการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เขามาเช่า พอเช่าทำอะไรเสร็จเขาก็ล็อค ปล่อยให้เครื่องทำงานไปมีการดูจากข้างนอกไม่ต้องเข้ามาดูด้วยตัวเอง มีการจ่ายค่าเช่าปกติ แต่ที่มาปกติ คือมาลักไฟหลวงใช้ เพราะเราตรวจสอบพบเครื่องทำงานอยู่แต่มิเตอร์ไฟไม่เดินอยู่ระหว่างการขยายผลติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย


ด้าน นายพิสิษฐ์ เจริญนพศักดิ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า การมาพบความผิดปกติในครั้งนี้เนื่องจาก มีเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้า มาตรวจสอบมิเตอร์ไฟ ปรากฏว่ามิเตอร์ไม่หมุน เราจึงได้จัดเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบพบว่าที่สายไฟที่วิ่งเข้าไปในตึกมีกระแสไฟวิ่งเข้าไป 90 แอมป์ ทั้ง 3 เฟต เราจึงมั่นใจว่าต้องมีการละเมิดการใช้ไฟ น่าจะเป็นการขุดบิทคอยน์ จึงมีการไปแจ้งความและมาตรวจสอบในครั้งนี้


โดยพบว่าน่าจะมีการละเมิดการใช้ไฟ โดยใช้สารบางอย่างเจอรูและหยอดลงไปที่ตัวมิเตอร์ไฟ ทำให้จานที่ตัวมิเตอร์ไม่หมุน ประกอบกับการตรวจสอบการใช้กระแสไฟจึงเชื่อว่าเป็นการลักใช้ไฟฟ้าในการขุดบิดคอยน์ ซึ่งเราได้พบใช้งานอยู่ 24 ตัว มีสำรองอยู่อีก 7 ตัว รวมเป็น 31 ตัว มูลค่าความเสียหาย พบว่าพึ่งมีการมาเช่าได้ 2 เดือน เดือนละประมาณ 200,000 บาท และค่าปรับอีกประมาณ 220,000 บาท ร่วม 620,000 บาท ซึ่งเป็นการประเมิณในเบื้องต้น
อยากฝากเตือนหรือประชาชน ถ้าพบเห็นการใช้ไฟผิดปกติ ให้แจ้งการไฟฟ้าได้ทันที หรือโทร 1129 ซึ่งผิดคือเป็นการละเมิดลักไฟหลวงไปใช้ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ส่วน นาย ชัยพล เจ้าของอาคารพานิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เขาโทรติดต่อเข้ามาหาเราเพราะเราติดต่อให้เช่าไว้ ว่าขอดูห้อง จึงมาเปิดให้เขาดู เป็นวัยรุ่นชาย 3 คน เขาก็ตอบตกลงเอา โดยเขาบอกว่าจะมาเก็บของรถแต่งหรืออะไหล่รถแต่ง เราก็ไม่คิดอะไร เพราะทำสัญญาเสร็จเราก็ให้ลูกค้าเลย เราก็ไม่ได้มาดูเลย เพราะพึ่งเช่าได้เพียง 2 เดือน เพราะถ้าลูกค้ามาเช่าพอทำสัญญาเสร็จเราก็ไม่เข้ามายุ่งอยู่แล้ว ส่วนการจ่ายค่าเช่า เขาก็จะใช้แบบฝากผ่านตู้เงินสดธนาคาร โดยจะไม่มีการโอนให้เรา ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ก็ฝากให้คนที่คิดจะให้ใครเช่าก็ต้องดูให้รอบคอบ ต้องถามให้หมดต้องลงในสัญญาให้ครบ


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดของทั้งหมด พร้อมตรวจสอบเอกสารการเช่าว่าผู้เช่าเป็นใคร ตรวจสอบการเงิน เพื่อดำเนินการเร่งรัดติดตามตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

อ่านแล้ว162 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.