หวิดเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำ เรือลากจูง บรรทุกสินค้าอับปางกลางสามแยกแม่น้ำป่าสัก โชคดีคนขับเรือชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ ปลอดภัย

เมื่อเวลา 12.00 น .วันที่ 11 กันยายน 2565 นายพีระธร นาคสุข ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือยนต์ลากจูงจมกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณหน้า วัดประสาท อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือผู้สูญหายในแม่น้ำ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเรือตรวจการณ์ พบกลุ่มเรือยนต์ลากจูง เรือชาวบ้านได้ให้การช่วยเหลือ คนขับเรือให้ผู้โดยสารอยู่ในที่ปลอดภัย โดดยเรือยนต์ลากจูง จมสูญหายภายในแม่น้ำป่าสัก โดยได้ผูกเชือกกับเรือยนต์ลากจูงเอาไว้ได้เพื่อกำหนดจุดที่เรือจม
นายพีรธร นาคสุข ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจเรือยนต์ลากจูงที่จม ชื่อแสงเทียนลากจูง 14 โดยลักษณะเป็น เรือเทียบข้างเรือบรรทุกสินค้า เพื่อคอยประคองเรือบรรทุกสินค้าจะมีทั้งด้านซ้ายด้านขวา ซึ่งในช่วงน้ำหลาก เรือบรรทุกสินค้าจะต้องใช้เรือเทียบข้างช่วยในการเดินเรือ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเรือล่มในครั้งนี้


โดยทางเจ้าท่ากำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำ พร้อมประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้รับทราบ อีกทั้งแจ้งชุดปฏิบัติการตรวจตรา นำเรือยนต์ออกปฏิบัติงาน ช่วยเหลือ คอยควบคุมการจราจรทางน้ำให้เป็นไปตามกฎหมาย และคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยควบคู่กันไปอีกด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและผู้เดินเรือ
ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น . วันที่ 11 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ชุดประดาน้ำ ได้รับการประสานจากเจ้าของเรือให้มาช่วยเหลือให้ทีมชุดประดาน้ำดำน้ำลงไปผูก เชือก เข้ากับเรือที่อับปางเพื่อจะให้เรือยนต์จำนวนหลายลำช่วยกันลากหลบ ริมแม่น้ำเพื่อ เปิดทางให้เรือที่บรรทุกสินค้ามาได้ผ่านน่านน้ำแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย โดยลักษณะของเรือหัวได้หันไปทางทิศเหนือลักษณะเอียง 45 องศาอยู่ใต้น้ำลึกประมาณ 15 เมตร โดยคาดว่าถ้าไม่มีอุปสรรคใดอาจกู้ลากเรือเข้ามาฝั่งแล้วเสร็จช่วงค่ำ




โดยขณะที่มีการผูกเชือกติดเรือลากจูงนั้น เจ้าของเรือที่ขับได้ ทำพิธีจุดธูปไหว้ขอขมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์และ เจ้าแม่คงคาเพื่อขอให้กู้เรือ ที่อับปาง ไม่ให้มีอุปสรรคและให้กู้เรือได้สำเร็จโดยเร็ว
นาย สุรชัช สดใส 45 ปี คนขับเรือ เล่าว่าตนเองเป็นเรือกระเตงอยู่ข้างซ้ายโดยมีเรือยนต์ลากจูงมาทั้งหมด 5 ลำ ท้าย 1 ลำ โดยขณะนั้นบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นช่วงทางโค้ง และน้ำค่อนข้างแรง ตนเองจึงพยายามดึงเรือลากจูงเพื่อไม่ให้หลุดโค้ง แต่ตอนนั้นน้ำไหลแรงมากทำให้เรือเสียการทรงตัวและเชือกที่ผูกติดกับเรือก็ตึงทำให้เรือ เสียการทรงตัวน้ำเริ่มเข้ามาในเรือตนเองก็พยายามจะถอยหลังเรือแต่เชือกก็ตึงอยู่ตลอดจึงให้คนบนเรือตัดเชือกออก แต่ก็ตัดไม่ทัน เรือก็ค่อยๆจมลงตนยังอยู่ในห้องขับเรือข้าวของ เครื่องใช้ เริ่มจะไหลมาทับตนเองก็ผลักเปิดประตูออกมาแล้วรีบขึ้น อยู่บนท้ายเรือ โดยแฟนของตนเองมีเรือรับจ้างมาช่วยเหลือส่วนตนเองก็ใส่ชูชีพอยู่แล้วจึงออกมาได้อย่างปลอดภัย
โดยทางเจ้าท่ากำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่รับแจ้งเหตุเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางน้ำ พร้อมประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้รับทราบ อีกทั้งแจ้งชุดปฏิบัติการตรวจตรา นำเรือยนต์ออกปฏิบัติงาน ช่วยเหลือ คอยควบคุมการจราจรทางน้ำให้เป็นไปตามกฎหมาย และคอยช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยควบคู่กันไปอีกด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและผู้เดินเรือ






ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. ผู้ประกอบการเดินเรือพร้อมเจ้าหน้าที่ทำการกู้เรือที่อับปางลงกลางแม่น้ำป่าสักโดยได้ใช้เรือลากจูงจำนวน 4 ลำ ผูกเชือกติดกับเรือลากจูงที่จมลงอยู่ใต้แม่น้ำและอีก 1 ลำอยู่ท้ายเรือ หลังจากนั้นได้มีการส่งสัญญาณพร้อมกันโดยได้เร่งเครื่องเรือทั้ง 4 ลำเต็มกำลัง เพื่อดึงเรือลากที่จมอยู่ใต้น้ำเข้ามาบริเวณริมฝั่งซึ่งห่างจากจุดที่จมประมาณ 100 เมตรได้สำเร็จ และปลอดภัย เพื่อเป็นการเปิดทางน้ำให้สามารถสัญจรได้
อ่านแล้ว316 times!