ดร.วิเชียร ชุบไธสง ผู้สมัครนายก เบอร์ 3 และคณะกรรมการสภาทนายความ เบอร์ 23-44 พร้อมทำงานโดยนำการเปลี่ยนแปลงด้วยการปกป้อง ปรับปรุง โปร่งใส เ

แบ่งปันข่าวนี้ :

WICHIEN WORK !…     “ไม่มีใครรักเราเท่าเรารักกัน”…วิเชียร …พร้อมทำงาน  

 
 
      ดร.วิเชียร ชุบไธสง ผู้สมัครนายก เบอร์ 3 และคณะกรรมการสภาทนายความ เบอร์ 23-44 พร้อมทำงานโดยนำการเปลี่ยนแปลงด้วยการปกป้อง ปรับปรุง โปร่งใส เปิดกว้าง และประสิทธิภาพ สำหรับการบริหารสภาทนายความและการให้บริการที่ดีแสมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ตามนโยบาย  6 ด้าน รวม 30 ข้อ กล่าวคือ

  1. ปกป้ององค์กรและผดุงเกียรติทนายความ
    1.1 คัดค้านปฏิรูปการศึกษานิติศาสตร์แห่งชาติด้านวิชาชีพทนายความ
    1.2 ยกมาตรฐานการกลั่นกรองก่อนรับเป็นคดีมรรยาท โดยความเห็นชอบของประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความ
     
  2. ปรับปรุงด้านสวัสดิการ
    2.1 ฟื้นฟูกองทุนต่าง ๆ โดยเพิ่มเงินช่วยเหลือกรณีทนายความเจ็บป่วยทุพพลภาพสูงสุด 120,000 บาท
    2.2 เพิ่มเงินเบี้ยทนายความอาวุโส ปีแรก 7,000 บาท ปีถัดไปปีละ 10,000 – 20,000 บาท
    2.3 ปรับปรุงการฌาปนกิจสงเคราะห์ของสภาทนายความ จ่ายเงินเต็มตามจำนวนสมาชิก เช่น สมาชิก 10,000 คน จ่าย 200,000 บาท ตามจำนวนทันที
    2.4 ส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานการกีฬาทุกประเภท และสันทนาการอย่างทั่วถึงเพื่อความสามัคคี
    2.5 นำสหกรณ์ออมทรัพย์ทนายความแห่งประเทศไทยกลับสู่สภาทนายความ และจัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไว้บริการสมาชิกในกรณีจำเป็น
    2.6 ทำความร่วมมือกับสถาบันการเงินเพื่อส่งเสริมเครดิตการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยอัตราพิเศษ
    2.7 เพิ่มค่าตอบแทนทนายความอาสาวันละ 1,500 บาท หรือตามแนวทางปฏิรูปของรัฐบาล
    2.8 จ่ายเงินค่าตอบแทนทนายความอาสาภายใน 1 เดือน
    2.9 เพิ่มค่าใช้จ่ายให้สภาทนายความจังหวัด ขั้นต่ำเดือนละ 7,000 บาท หรือตามภาวะเศรษฐกิจ
     
  3. ปรับปรุงด้านเทคโนโลยี
    3.1 นำเทคโนโลยีระบบ Digital และ Blockchain มาใช้ในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้บริการทนายความ
    3.2 จัดทำห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ E-Library บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับแบบฟอร์มต่าง ๆ ของศาล ตัวอย่างคำคู่ความ นิติกรรมสัญญา และคำพิพากษาศาลฎีกาใหม่ล่าสุด
    3.3 เพิ่มช่องทางจัดทำใบอนุญาตให้เป็นทนายความแบบอิเล็กทรอนิกส์ และต่อใบอนุญาตให้เป็นทนายความ ผ่านแอพพลิเคชั่นไม่ต้องเดินทางไปยังที่ทำการสภาทนายความ และไม่ต้องส่งไปรษณีย์
    3.4 เพิ่มช่องทางการสมัครผู้สอบรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
     
  4. โปร่งใสในการบริหารองค์กร
    4.1 เปลี่ยนโครงสร้างขององค์กร โดยการกระจายอำนาจไปสู่ภูมิภาคอย่างแท้จริง ด้วยการให้ส่วนภูมิภาคมีบทบาทในการทำงานร่วมกับส่วนกลางอย่างมีประสิทธิภาพ
    4.2 ยึดหลักการบริหารตามโครงสร้างของสภาทนายความตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด
    4.3 สร้างความสามัคคีและความเสมอภาคให้สมาชิก อย่างเท่าเทียมกันและเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมขององค์กรอย่างทั่วถึง
    4.4 ปฏิรูปเจ้าหน้าที่สภาทนายความต้องบริการสมาชิกทนายความแบบมืออาชีพ
    4.5 ปรับปรุงอาคาร สถานที่ จัดทำห้องรับรอง เพื่อให้บริการทนายความ และประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
     
  5. เปิดกว้างด้านวิชาการและการมีส่วนร่วม
    5.1 จัดอบรมหลักสูตรเฉพาะทางชำนาญการ 36 หลักสูตร เพื่อยกระดับมาตรฐานในการเพิ่มช่องทางการประกอบวิชาชีพทนายความ
    5.2 จัดอบรมกฎหมายทั่วไปทั้งแบบ Online และ Onsite แบบ Onsite จะนำวิทยากร (คนส่วนน้อย) ไปบริการทนายความ (คนส่วนใหญ่) ในแต่ละจังหวัด
    5.3 จัดอบรมและทดสอบผู้ขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็นทนายความโดยจัดให้มีการสอบในส่วนภูมิภาค
    5.4 เปิดศูนย์ออนไลน์ให้คำปรึกษาด้านคดีแก่ทนายความใหม่
    5.5 จัดตั้งคณะทำงานศึกษากฎหมายที่เป็นการลิดรอนสิทธิประชาชน หรือกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการประกอบวิชาชีพทนายความเพื่อทำการแก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ทนายความทุกท่านมีส่วนร่วม
    5.6 จัดตั้งคณะทำงานเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ในการประกอบวิชาชีพทนายความ และประชาชน
    5.7 ตั้งศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาวิชาชีพทนายความ
     
  6. ประสิทธิภาพการช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย
    6.1 ให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ และไม่ได้รับความเป็นธรรมในเชิงรุกโดยให้
    ส่วนภูมิภาคเป็นผู้อนุมัติให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
    6.2 จัดให้มีคณะทำงานคดีสิ่งแวดล้อม คดีสิทธิมนุษยชน และคดีผู้บริโภคประจำทุกภาค และจัดตั้งอนุกรรมการทุกจังหวัด
    6.3 ผลักดันของบประมาณจากรัฐบาล ให้ได้รับเพิ่มขึ้นเพื่อสอดรับกับภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนทางด้านกฎหมาย

อ่านแล้ว480 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.