อดีตสามีวัย 62 บุกยิงภรรยาวัย 47 กลางโรงแรมที่ทำงานก่อนกราดยิงแม่บ้านเพื่อนที่ทำงานเสียชีวิต 1 ราย ภรรยาเจ็บ

แบ่งปันข่าวนี้ :

อดีตสามีวัย 62 บุกยิงภรรยาวัย 47 กลางโรงแรมที่ทำงานก่อนกราดยิงแม่บ้านเพื่อนที่ทำงานเสียชีวิต 1 ราย ภรรยาเจ็บ

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565  ร.ต.อ.บรรเจิด จองพิทักษ์พงษ์  พนักงานสอบสวน สถานนีตำรวจภูธรท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายอาการสาหัส  ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าเรือ ส่วนมือปืนหลบหนี เหตุเกิดภายในลานจอดรถ ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่อำเภอท่าเรือ เลขที่ 77/88 เขตเทศบาลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรายงาน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ  แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา จุดท่าเรือ เดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ พบกองเลือดและรอยเท้าเปื้อนเลือดจำนวนมากที่บริเวณพื้นปูนลานจอดรถ และปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.จำนวน 8 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลท่าเรือ เป็นหญิง 2 ราย แต่เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลท่าเรือ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางสุขสม  มีเดช อายุ  63 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 159/6 หมู่ที่ 1 ตำบลจำปา อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรียุธยา เป็นแม่บ้านโรงแรมเสียชีวิต ถูกยิงบริเวณหน้าอก 3 นัด และบริเวณแขนขวา 1 นัด สะโพกซ้าย 1 นัด รวมจำนวน 5 นัด

ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายทราบชื่อคือ นางสุรีรัตน์  นิ่มแสวงกุล  อายุ 47 ปี ได้รับบาดถูกยิงเข้าที่บริเวณ นิ้วชี้ข้างขวา นิ้วก้อยข้างซ้าย บาดเจ็บ ซึ่งเป็นอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุคือ นายรักษา (อั้น)  โอสถเสน  อายุ  62 ปี อดีตสามี ของผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนอยู่ภายในซอย บัวงาม บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 ตำบลจำปา อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. ท่าเรือ ร่วมกับชุดสืบสวนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าปิดล้อมเพื่อต้องการเจรจาเกลี้ยกล่อม ให้นายอั้น มอบตัวแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา  ซึ่งใช้เวลาเกลี่ยมกล่อมอยู่นานหลายชั่วโมงแต่ยังไม่เป็นผล  แต่นายอั๋นผู้ก่อเหตุได้ประสานผ่านทาง  พ.ต.อ.ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ ว่าจะขอมอบตัว แต่อยู่ระหว่างรอลูกชายเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น ลูกชายได้เดินทางมาที่บ้านและไม่เกลี้ยงกล่อมจนพ่อของตนเองยอมมามอบตัวโดยดี จากนั้นก็ควบคุมตัวไปที่ สภ.ท่าเรือ พร้อมอาวุธปืน

ส่วน นางสาวยุวดี จรินทร์พันธุ์ อายุ 34 ปี  หลานสาว  เล่าให้ฟังว่านายอั้น ปกติจะพักอยู่ใน ซอยท่าแดง ตำบลจำปา อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ถัดจากบ้านตนเองไปไม่ไกล แต่วันนี้ได้มาที่บ้านของตนเองตั้งแต่ 11.00 น. และนั่งกินเบียร์จนเมาพร้อมบ่นว่าเบื่อ ไม่อยากอยู่ ตนเองก็ได้แต่ปลอบใจแต่ก็รู้ว่าลุงเครียดเรื่องป้าน้ำ เพราะได้แยกทางกันเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีแต่ลุงยังทำใจไม่ได้และเก็บกดมาตลอด แต่ลุงก็ไม่ได้พูดให้ฟังหรือทำอะไรให้ช่วยคิดว่าจะไปทำร้ายป้าน้ำ จนกระทั่งวันนี้ได้เดินทางออกจากบ้านไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. และกลับเข้ามาอีกรอบนึงพร้อมบอกว่าตนเอง ใช้ก่อเหตุ ยิง ป้าน้ำมาและก็มีป้าติ๋มถูกยิงไปด้วยตนเอง จึงรู้สึก ตกใจมาก รีบออกจากบ้านมาประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลัวว่านาย อั๋น จะคิดสั้นฆ่าตัวตาย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลท่าเรือ โดยบรรยากาศ เป็นด้วยความโศกเศร้ามีบรรดาญาติ ลูกชาย และแม่ของผู้เสียชีวิตเดินทาง ที่โรงพยาบาล สอบถาม นางสมบูรณ์   จิตประสงค์ อายุ 81 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองมีลูกสาว 7 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนโตและทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ในโรงแรมดังกล่าว เมื่อช่วงเย็นหลังเลิกงานได้มานั่งเล่นอยู่บริเวณลานออกกำลังกาย หน้าโรงแรม โดยมี นางสาว สุรีรัตน์  นิ่มแสวงกุล อายุ 47 ปี คนเจ็บ ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันได้มาออกกำลังกาย หลังจากนั้นคนร้ายก็มาบุกยิงจนทำให้ลูกสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวส่วนเรื่องอะไรนั้นตนไม่ทราบสาเหตุ

ทางด้าน นางสาว สุรีรัตน์  นิ่มแสวงกุล อายุ 47 ปี  ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นอดีตภรรยา ผู้ก่อเหตุ ซึ่งถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณมือทั้งสองข้าง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนเองได้มาเต้น ออกกำลังกายทุกเย็น เหมือนปกติที่เคยทำ โดยผู้ตายทำงานที่เดียวกับตนเอง  และ นาย อั้น อายุ 62 ปี   ซึ่งเป็นอดีตสามีเก่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ตรงบริเวณลานออกกำลังกายจากนั้นก็เข้ามาพูดต่อว่าตนว่าทำไมไม่คุยด้วย ตนเองจึงเดินหลบ แต่ไม่คิดว่านายอั้นจะนำปืนติดตัวมา จากนั้นก็กราดยิงตนเอง ก็รีบวิ่งหนี ส่วนผู้ตายนั้นนั่งอยู่ก็ถูกยิงไปหลายนัด จากนั้นนายอั้น ก็ขับขี่รถจยย.หลบหนีไป และมีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย อยุธยา ได้รับแจ้งเหตุ จึงนำตนเองและผู้ตายส่งโรงพยาบาลท่าเรือ แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ส่วนสาเหตุนั้นตนเองเลิกกับสามีเก่าคนนี้มาได้ร่วมปีแล้วและไม่เคยติดต่อกัน แต่ยังถูกตามรังควานและราวีโดยก่อนหน้าเคยถูกข่มขู่ จะเอาให้ถึงชีวิต แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ธีรวุฒิ  แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ  เปิดเผยว่า  ก่อนหน้าที่ นายอั้น ผู้ก่อเหตุ ได้มีปัญหากับอดีตภรรยาและ เคยมาปรึกษาตนเอง ให้ไปเคลียร์กับภรรยา แต่เนื่องจากอดีตภรรยาตั้งใจแล้วว่าจะไม่กลับไปคืนดี จนผ่านไปสักระยะหนึ่งก็ทราบว่าผู้ก่อเหตุก็ยังไป ตามและราวี อดีตภรรยาจนกระทั่งมาก่อเหตุ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แล้วกลับไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลานสาว จนกระทั่ง ตนเองได้มีเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องหาอยู่แล้ว จึงได้โทรไปประสานเพื่อเกลี้ยกล่อมซึ่งผู้ต้องหาก็ยินยอมที่จะมอบตัวแต่ต้องรอลูกชายที่มาจากกรุงเทพฯและชลบุรีก่อนถึงจะยอมมอบตัว ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจาก ผู้ก่อเหตุมีความคับแค้นใจ ในตัวอดีตภรรยาและตัวของผู้ตายเนื่องจากคิดว่า ตัวภรรยามีชายอื่นส่วนผู้ตายนั้นก็กีดกันให้อดีตภรรยาไม่กลับมาคืนดี จึงเป็นมูลเหตุในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามจะให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนหาสาเหตุและมูลเหตุในการก่อเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

ศักดริน  พุทธคาวี ( ต้น 089 – 886 – 2828 )

อ่านแล้ว240 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.