สภา กทม. เร่งประสานการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้คนงาน
ตามนโยบายของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในทุกพื้นที่ นั้น
พล.ต.ต. ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภา กทม. และ ประธานคณะกรรมการวิสามัญแก้ไขปัญหาสถาณการณ์โควิด-19 สภา กทม. ร่วมกับ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม.สำนักอนามัย และสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ของ กทม. ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
โดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2564 เวลา 11.00 น. พล.ต.ต. ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภากทม./ประธานคณะกรรมการวิสามัญแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 สภา กทม.ร่วมกับ ผอ.นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ เขตปทุมวัน และผู้บริหารของ บ. นันทวัน จำกัด ( THAI OBAYASHI) มีนายเฉลิมชัย ศรัณยวณิชัย ผู้จัดการอาวุโส , นายทินกร รอดพยาธิ์ ที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มให้กับคนงานก่อสร้างโครงการสุโขทัย เรสซิเด็นท์ ใกล้แยกสารสิน ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กทม. เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนงานที่ทำงานในโครงการดังกล่าว ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1,000 คน
การดำเนินการดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการที่ พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภา กทม. / ประธานคณะ กก. วิสามัญ ฯ แก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ของสภา กทม.ได้จัดตั้งเครือข่ายปันสุขสู้ ภัยโควิด เศรษฐกิจพัฒนา ซึ่งเป็นเครือข่ายจิตอาสาภาคประชาชน ที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ กทม. ภาคเอกชน และประชาชน ในการบูรณการขับเคลื่อนการปฏิบัติ เพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด เพื่อตอบสนองนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ
การจัดให้มีการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มของ บ. นันทวัน จำกัด ( THAI OBAYASHI) ดังกล่าวน่าจะเป็นหน่วยงานแรกที่มีการบริหารการจัดการที่ดี ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนงานของบริษัท โดยมีการบูรณาการอย่างใกล้ชิด สภา กทม. และสำนักงานเขต ในแต่ละพื้นที่อันจะเป็นแบบอย่างที่ดี ที่บริษัทอื่นๆ สามารถนำไปปฏิบัติได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยทั้งคนงาน และประชาชนโดยทั่วไป
พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภา กทม. / ประธานคณะ กก. วิสามัญ ฯ แก้ไขสถานการณ์ โควิด-19 ของสภา กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจากสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระราชูปถัมภ์ และสมาคมภัตตาคารไทย ว่าได้รับผลกระทบจากประกาศข้อกำหนดของรัฐบาล ฉบับที่ 25 ประกาศ ณ วันที่ 26 มิ.ย. 2564 และประกาศของกรุงเทพมหานครฉบับที่ 34 ประกาศ ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2564 โดยใคร่ขอวิงวอนต่อรัฐบาลให้ช่วยผ่อนคลายการปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว โดยอย่ามองว่าแคมปัคนงาน สถานที่ก่อสร้าง ร้านอาหาร ภัตตาคารเป็นภัยคุกคามต่อการระบาดของโรคไวรัส โควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ประกอบการของสถานที่ดังกล่าว ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว เนื่องจากจะต้องรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพ และภาพลักษณ์ขององค์กร ควรมองว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นหน่วยสร้างรายได้ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประชาชน และประเทศชาติช่วยให้รัฐจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนอกจากนี้บรรดาแคมปัคนงาน สถานที่ก่อสร้าง ร้านอาหาร ภัตตาคาร ที่มีการปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางราชการ ไม่ใช่สาเหตุของการก่อให้เกิดปัญหาของโรคระบาดไวรัส โควิด-19การปิดสถานที่ดังกล่าว จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ถูกต้อง ควรให้สำนักงานเขต อำเภอ เป็นหน่วยตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวแห่งใดได้มีการปฏิบัติผ่านเกณฑ์มาตรฐานของทางราชการ ควรให้เปิดดำเนินการกิจการได้
ประชาชนเข้าใจดีว่า ปัจจุบันรัฐบาลบริหารราชการในสภาวะวิกฤตของโรคไวรัส โควิด-19เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน บรรดาประกาศ คำสั่งต่างๆของรัฐบาล ต้องออกมาอย่างรวดเร็ว และชัดเจนแต่ก็ต้องยอมรับว่าแผนงาน คำสั่งต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบ และมีความเดือดร้อนจากประกาศดังกล่าวเป็นอย่างมาก ควรที่รัฐบาลต้องรับฟังเสียงของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ หากรัฐบาลได้มีการผ่อนคลายการปฏิบัติตามประกาศดังกล่าว ย่อมนำมาซึ่งความพึงพอใจของประชาชนเนื่องจากประชาชนสามารถประกอบ สัมมาอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวอย่างเพียงพอ ไม่จำต้องให้รัฐบาลตั้งงบประมาณ ในการเยียวยาแต่อย่างใด ซึ่งรัฐบาลสามารถนำงบประมาณ ที่จะนำไปเยียวยาประชาชนนั้น ไปจัดซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ มาฉีดให้กับประชาชนได้อย่างเพียงพอทั่วถึง และด้วยความรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์ ประชาชนจะมีความศรัทธาต่อรัฐบาล จะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้รัฐบาลในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินต่อไป ซึ่งประชาชนที่อยู่ในอาชีพก่อสร้าง ร้านอาหาร ภัตตาการวมทั้งบุคลากรที่เกี่ยวข้อง มีจำนวนหลายสิบล้านคนเป็นสาขาอาชีพที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมวลรวมให้กับประเทศไทย อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
พล.ต.ต. ประสพโชค พร้อมมูล สมาชิกสภา กทม. และ ประธานคณะกรรมการวิสามัญแก้ไขปัญหาสถาณการณ์โควิด-19 สภา กทม. ผู้ประสานงานเครือข่ายปันสุขสู้ภัยโควิดเศรษฐกิจพัฒนา ยืนยันว่าจะมีการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ในภาคส่วนต่างๆเพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพ ตามนโยบายของรัฐบาล อย่างต่อเนื่องต่อไป
อ่านแล้ว540 times!