ศอ.บต. เร่งช่วยเหลือเกษตรกรปลูกฟักทอง จังหวัดชายแดนใต้ ล้นตลาดกว่า 4000 ตัน ส่งออกไม่ได้เพราะวิกฤตโควิด

แบ่งปันข่าวนี้ :

ศอ.บต. เร่งช่วยเหลือเกษตรกรปลูกฟักทอง จังหวัดชายแดนใต้ ล้นตลาดกว่า 4000 ตัน ส่งออกไม่ได้เพราะวิกฤตโควิด

นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกฟักทองในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ทาง ศอ.บต. ได้รับการประสานจากเกษตรกร ในพื้นที่ อ.จะนะ อ.เทพา อ.ระโนด ของ จ.สงขลา และจ.ปัตตานี จ.ยะลา อีกบางส่วน ว่าขณะนี้ประสบภาวะวิกฤติฟักทองล้นตลาด อยู่ที่ประมาณ 4,000 ตัน ยังไม่มีที่ขาย เพราะก่อนหน้านี้ เกษตรกร มีการขายออกฟักทองตามฤดูกาลได้ตามปกติ ทั้งพื้นที่ตลาดไท ตลาดสีมุมเมือง และ ส่งออกขายไปยังร้านต้มยำกุ้ง ที่มีอยู่ 4000-5000 สาขา ในประเทศมาเลเซีย รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศมาเลเซีย ด้วย

แต่ปัจจุบัน มาเลเซีย ประสบปัญหาโควิด19 ต้องล็อคดาวน์ประเทศ ทำให้ฟักทองจากไทยไม่สามารถส่งไปยังประเทศมาเลเซียได้ และส่งขายในประเทศไทย ก็ได้ไม่มาก เพราะทุกที่ก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจ จากภาวะโควิด 19 จึงทำให้ผลผลิตตกค้าง ดังนั้นทาง ศอ.บต. จึงได้ทำแผนในการกระจายผลผลิตฟักทองของเกษตรกรไว้ 3 ส่วน คือ

  1. การขายผลผลิตโดยตรงสู่ประชาชน ทำตลาดออนไลน์ ร่วมกับ มูลนิธิรวมพัฒน์ ในการขายสินค้าไปยังผู้บริโภค
  2. ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนรายใหญ่ เครือข่ายสมาชิก และส่วนราชการในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ในการนำผลผลิตทางการเกษตรแปรรูปเป็นอาหาร สำหรับเลี้ยงบุคลากร อาทิ ฝ่ายทหาร ฝ่ายตำรวจ และราชทัณฑ์ เป็นต้น
  3. การติดต่อโรงงานเพื่อแปรรูปที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากฟักทองเป็นส่วนประกอบหลัก แต่หลายโรงงานก็ประสบปัญหาวิกฤตโควิด19 เช่นเดียวกัน

จากแผนงาน 3 ส่วนที่ ศอ.บต. เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้ขณะนี้สามารถระบายฟักทองไปได้แล้วประมาณ 2000 ตัน ยังเหลือตกค้างอยู่อีกประมาณ 2000 ตัน นอกจากนี้ กระทรวงพานิชย์ ยังให้การช่วยเหลือเกษตรกร ด้วยมาตรการรับประกันราคาฟักทอง กิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน

นอกจากนี้ จากการที่ ศอ.บต. เข้าไปสำรวจตรวจสอบ พบกว่า เกษตรกรยังไม่มีการรวมกลุ่มกัน ในโอกาสนี้ จึงได้แนะนำ เรื่องของการรวมกลุ่มเครือข่ายสมาชิกไปในตัว และจากการพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกร ก็พบว่า กลุ่มเกษตรกรเอง ได้เห็นชองทางของการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการมองหาช่องทางการแปรรูปผลผลิต เพื่อ หาตลาดเพิ่ม เพื่อไม่ต้องรอแต่การขายผลผลิตจากสวนเพียงอย่างเดียว

นายธนภัทร บัวลอย ประธานกรรมการมูลนิธิรวมพัฒน์ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทาง ศอ.บต.ว่า อยากให้เข้ามาทำโครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ เพราะปีนี้ฟักทองล้นตลาดไม่มีแหล่งจำหน่าย เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากวิกฤตโควิด แม้จะมี ห้างร้านต่างๆ รับซื้อฟักทองไปวางจำหน่าย แต่ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ไม่มีคนไปเดินห้าง เพื่อซื้อสินค้ามากนัก จึงมองหาช่องทางที่จะให้ ประชาชน ได้บริโภคฟักทอง จากเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง ซึ่งการสั่งซื้อทางออนไลน์ น่าจะตอบโจทก์กับโครงการนี้มากที่สุด

จึงเกิดเป็นโครงการ “แม่ค้าอาสา” เพื่อช่วยขายผลผลิตฟักทองให้กับเกษตรกร โดยจะดึงกลุ่มInfluencer หรือ กลุ่มพริตตี้ เน็ตไอดอล มาช่วยในการโฆษณาสินค้า เพราะในช่วงโควิดแบบนี้ กลุ่มพริตตี้ เน็ตไอดอลต่างๆก็ไม่ค่อยมีงานเช่นเดียวกัน จึงประสาน น้องๆกลุ่มนี้ มาร่วมเป็น “แม่ค้าอาสา” มาช่วยกันขายของ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการคิดคำนวนราคาต้นทุนและค่าขนส่ง เพื่อให้เกษตรกร พอได้กำไร และ ผู้บริโภคได้รับผลผลิตที่สมควรกับราคาและคุณภาพ

//////

อ่านแล้ว672 times!

แบ่งปันข่าวนี้ :

You May Also Like

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.